หัวข้อ: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: phonsakw ที่ กรกฎาคม 10, 2011, 08:53:50 PM มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม?
'ปองศักดิ์' date='07 June 2011 - 07:02 PM' เพิ่งรู้ว่าการมีความเมตตา กรุณาในจิต คือจิตไม่บริสุทธิ์ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ "หน่อ พุทธภูมิ ถ้าเปรียบไปแล้ว ก็คือ พระอนาคามี เพราะกำลังจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า แต่จัดเป็นพระอนาคามีชั้นพิเศษ คือเหมือนกันแต่ท่านยังไม่เอา หลวงปู่ท่านจึงยังไม่สอนใครถึงนิพพาน เพราะถึงไม่ใช่กิจของท่าน แต่ท่านรู้ทั้งนั้น บารมีทั้ง ๑๖ อสงไขย ไม่รู้ได้อย่างไร หลวงปู่ทวด จิตท่านยังมีจุดดำอยู่ แกว่าจริงไหม" ผู้เขียนตอบว่า "ถ้า ไม่มีท่านก็สำเร็จ(อรหันต์-พลศักดิ์)แล้วซิครับ แต่จุดดำนั้นเป็นจุดของความเมตตา ที่ท่านจะโปรดสัตว์ เพื่อจะให้สมกับคำว่า ศรีอริยเมตไตรย ดังนั้น จุดดำนี้ผมถือว่า มีค่าน้อยมากตัดทิ้งไปได้เลย" หลวงปู่ท่านพยักหน้ายิ้มรับ หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: AVATAR ที่ กรกฎาคม 11, 2011, 02:59:08 PM ถ้าพูดว่า จุดดำ คือมหาเมตตา ของพวกหน่อเนื้อพุทธางกูลก็เข้าใจอยู่กับในพวกหน่อเนื้อ ซึ่งก็เป็นอันเข้าใจกัน นั่นจึงทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก ถึงแม้จะเป็นพระโพธิสัตว์บารมีระดับไหนก็ตาม และถึงแม้กระทั่งพระนิตยโพธิสัตย์ที่ได้รับการพยากรณ์แล้วก็ยังลงอบายได้อยู่ยกเว้น อเวจีมหานรกและโลกันตนรก เท่านั้น การแสดงธรรมต้องรู้จักวาระ กาลเวลา สถานที่ และประเภทบุคคลที่จะแสดงธรรม จึงจะพึงเกิดประโยชน์อย่างยิ่งแก่ผู้ฟังธรรม หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: phonsakw ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 01:58:26 AM จุดดำ คือมหาเมตตา ไม่ได้ืำทำให้เวียนว่ายตายเกิดหรอกครับ เพราะพระโพธิสัตว์ศรีอริยะเมตตรัย ท่านบรรลุอรหันต์ไปแล้วตั้งแต่เป็นพระอชิตะแล้ว ลองไปอ่านประวัติของพระอชิตะซิครับ แต่หน่อพุทธภูมินั้นสามารถแยกจิตได้หลายจิต ลงไปเกิดได้ เรียกว่า "อวตาร" หลวงปู่ดู่เรียกอวตารว่า "ภูตพระเจ้า"
พระโพธิสัตว์ศรีอริยะเมตตรัย(อชิตะ)ท่านก็ยังเป็นพระอรหันต์โพธิสัตว์อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตเหมือนเดิม แต่อวตารหรือภูตพระเจ้า ซึ่งเป็นจิตของท่านอีกส่วนหนึ่ง ที่ปราถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าขั้นสูงสุด เพื่อที่จะสามารถนำสรรพชีวิตเข้าสู่พระนิพพานได้มากกว่าพระพุทธเจ้าทั่วไป ด้วยเหตุนี้ อวตารหรือภูตพระเจ้า ซึ่งเป็นจิตอีกจิตหลายจิตของพระโพธิสัตว์ศรีอริยะเมตตรัย(อชิตะ) จึงต้องลงไปเกิดเป็นหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด และหลวงพ่อโต เพื่อสร้างบารมีเพิ่มให้เพียงพอจะเป็นพระพุทธเจ้า สรุป พระอชิตะ ท่านบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ตั้งแต่พุทธกาลนั่นแล้ว แต่ท่านเป็นหน่อพุทธภูมิ(คนที่จะเป็นพระพุทธเจ้า) พระโพธิสัตว์ศรีอริยะเมตตรัย จิตอวตารต่างๆของพระศรีอริยะเมตตัยโพธิสัตว์จึงต้องลงไปเกิดอีกเพื่อสร้างบารมี ตัวอย่าง จุดดำ คือมหาเมตตา ไม่ได้ืำทำให้เวียนว่ายตายเกิด ก็อย่างจุดดำหรือความเมตตาของพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม(สัมโภคกาย)ยังไงล่ะครับ ท่านก็ยังเป็นพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม(ธรรมกายที่เป็นกายทิพย์สัมโภคกายด้วย) ไม่ต้องลงมาเกิดแล้ว แต่มนุษย์คนใดสามารถบรรลุธรรมระดับเดียวกับท่าน ก็จะเป็นกวนอิมเหมือนท่าน เช่น กวนอิมพันมือ(เกิดเมื่อหลายกัปมาแล้ว) และกวนอิมประทานพร(เกิดเมื่อ 4000 ปีก่อนพุทธกาล) -นั้นก็คือ หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ และสมเด็จโต เป็นองค์เดียวกันกับพระอชิตะ(พระศรีอริยะเมตตัยโพธิสัตว์) แต่จิตเดียวกันทั้ง 4 จิต ลงไปเกิดคนละยุคเท่านั้น เพื่อจะสะสมบารมี ทำให้ ศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ กลายเป็น ศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้า หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: AVATAR ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 05:12:37 PM พระอชิตะจะลงมา"เกิด"อุบัติอีกเป็นชาติสุดท้ายคือพระศรีอารย์ว่างั้นเถอะ
พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ก็ต้องมาเกิด(อุบัติ)บนโลกอีกอยู่ดีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า เข้าใจได้ถูกต้องดีนี่ครับ คุณลุง จะบอกว่าคุณลุง ก็อวตารหรือเป็นภูติพระเจ้าด้วย ใช่มั๊ยครับ ตามสบายทำไปตามหน้าที่ ผูกจิตผูกใจชาวเว็บธรรม ตามวิถีท่านเถิด แต่บรรดาเสียงตอบรับจากเพื่อนๆดูจะไม่ค่อยจะเป็นไปตามจุดประสงค์ท่านนะ พัฒนาและพิจารณาชั้นเชิงในการถ่ายทอดอรรถธรรมให้ประณีตละเมียดกว่านี้ด้วยครับ แทนที่จะมาหาสาวกเพิ่ม กลับเป็นไม่อยากไปบังเกิดในยุคท่านหมด แล้วมันจะยุ่ง เพราะรื้อขนสรรพสัตว์ไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ และเดี๋ยวต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีกหลายล้านชาติ เพื่อสะสมบารมีอีก ด้วยความปรารถนาดีครับ ;) หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: phonsakw ที่ กรกฎาคม 16, 2011, 11:26:40 PM พระอชิตะจะลงมา"เกิด"อุบัติอีกเป็นชาติสุดท้ายคือพระศรีอารย์ว่างั้นเถอะ
พระศรีอารย์มี 2 ครับ 1. พระศรีอารย์โพธิสัตว์ มีที่เกิดมาเป็นมนุษย์ = พระอชิตะ มีที่เกิดมาเป็นฌานิโพธิสัตว์ เป็นสัมโภคกาย 2. พระศรีอารย์พุทธเจ้า พระศรีอารย์โพธิสัตว์(พระอชิตะ)เป็นหน่อพุทธภูมิ พระองค์สามารถแบ่งจิต(ภูตพระเจ้า)ลงมาเกิด เพื่อมาสร้างบารมีต่อได้ พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ก็ต้องมาเกิด(อุบัติ)บนโลกอีกอยู่ดีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะพระมหาโพธิสัตว์กวนอิมมีทั้งที่เป็นฌานิโพธิสัตว์ และที่เกิดมาเป็นมนุษย์ 1. พระอวโลติเกศวรกวนอิมที่เป็นฌานิโพธิสัตว์เคยเป็นพระพุทธเจ้ามาแล้ว ชื่อว่า สัทธรรมวิทยาตถาคต ในคัมภีร์สหัสภุชสหัสเนตร อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ไวปุลยสมบูรณอกิญจนมหากรุณาจิตรธารณีสูตร ได้กล่าวไว้ว่า ดูก่อนกุลบุตร พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์พระองค์นี้ มีฤทธานุภาพไพศาลเหนือการคาดคะเนตรึกคิด ในอดีตกาลล่วงมานับประมาณกัลป์มิได้ มีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งได้ ตรัสรู้พระสรรเพชุดาญาณ พระนามว่า สัทธรรมวิทยาตถาคต ด้วยพระมหาปณิธานที่เปี่ยมด้วยมหากรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ จึงมีพุทธประสงค์จะนิรมิตพระโพธิสัตว์จํานวนมหาศาลให้บังเกิดขึ้น เพื่อยังความสุขศานติให้สําเร็จแก่สรรพสัตว์ แต่แล้วจึงบังเกิดเป็นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์(องค์เดียว ) ย้ำ! สัทธรรมวิทยาตถาคต ด้วยพระมหาปณิธานที่เปี่ยมด้วยมหากรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ มีพุทธประสงค์จะนิรมิตพระโพธิสัตว์จํานวนมหาศาล แต่แล้วจึงบังเกิดเป็นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์(องค์เดียว ) มีบทสรรเสริญสดุดีพระสัทธรรมวิทยาตถาคตใน บทมหากรุณาขมากรรม ว่า “นโมพระสัทธรรมวิทยาตถาคตเจ้าในอดีต ซึ่งคือพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ในปัจจุบัน” ในมหากรุณาธรณีสูตร องค์สมเด็จพระบรมศาสดาได้ทรงมีพระดำรัสสรุปความแก่บรรดา พุทธโพธิสัตว์ และทวยเทพในที่ประชุมว่า "แท้ที่จริงแล้ว พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์นี้ ได้สำเร็จธรรมในขั้น "พุทธะ" เมื่อครั้งหลายแสนกัปป์มาแล้ว ทรงพระนามว่า "เจิ่น ฝ่า หมิง ยู ไล้" แต่ด้วยเหตุที่พระองค์ทรงตั้งพระทัยจะโปรดเหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ให้มาร่วมกันฉุดช่วยเวไนยสัตว์มากมายที่ยังหลงเหลืออยู่ในทะเลทุกข์ พระองค์จึงทรงหวนกลับจากพุทธภูมิลงสู่แดนโพธิสัตว์อีก" ย้ำ! "เจิ่น ฝ่า หมิง ยู ไล้" จึงทรงหวนกลับจากพุทธภูมิลงสู่แดนโพธิสัตว์อีกเป็นพระอวโลกิเตศวร" 2. พระอวโลติเกศวรกวนอิมที่เป็นมนุษย์บนโลกมิตินี้มี 2 องค์ คือ - กวนอิมพันมือ องค์นี้เกิดบนโลกจริง แต่ไม่ใช่ใบนี้ เกิดไม่รู้กี่กัปมาแล้ว - กวนอิมประทานพร รูปที่ใช้กันทั่วไป มือจะถือกิ่งหลัว และแจกัน องค์นี้เป็นผู้ชาย แต่ท่านอธิษฐานขอเป็นหญิงเพื่อจะช่วยโปรดมนุษย์ด้วยกายหญิง พระวิษณุกรรมเลยแปลงกลายเป็นวัวหรือความยก็ไม่รู้ กัดอวัยวะเพศชายของท่านขาด ร่างกายของท่านเลยตาย ส่วนจิตหรือกายทิพย์ของท่านเกิดเป็นหญิง แล้วท่านยอมเสียสละจิตตกนรกแทนมารดา การเสียสละกายและจิตของธรรม ท่านจึงได้ธรรมกาย กวนอิมปางนี้จึงได้ทั้งกายทิพย์และธรรมกายจากการเสียสละกายและจิตของท่าน ผมยังไม่เห็นว่า พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม จะต้องมาเกิด(อุบัติ)บนโลกอีกอยู่ดีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าทำไม เพราะคำปณิธานของพระอวโลกิเตศวรองค์หนึ่ง "หากยังมีสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่ จักไม่ขอบรรลุพุทธภูมิ" พระโพธิสัตว์กวนอิมอีกองค์ ไม่ทราบว่าองค์เดียวกันหรือเปล่า ทรงมีมหาปณิธานอยู่ข้อหนี่งว่า "เมื่อใดที่เสียงคร่ำครวญทุกข์ร้อนของชีวิตทั้งหลายยังไม่หมดไปจากโลกนี้ เราจะไม่ขอ เข้าสู่ปรินิพพาน" บรรลุพุทธภูมิ เข้าสู่ปรินิพพาน น่าจะเป็นเรื่องเดียวกัน คือทิ้งกายทิพย์ เหลือกายธรรมเอาไว้ไปปรินิพพาน หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: AVATAR ที่ กรกฎาคม 17, 2011, 01:05:11 AM ดูๆไปแล้วเป็นคัมภีร์ของทางมหายานนะคุณลุง
ถ้าจะคิดตามครรลองนี้ก็ตามสบายเลยครับ ก็มันจะรื้อขนสัตว์ไปหมดได้อย่างไรด้วยวิธีนี้ "พระโพธิสัตว์กวนอิมอีกองค์ ไม่ทราบว่าองค์เดียวกันหรือเปล่า ทรงมีมหาปณิธานอยู่ข้อหนี่งว่า "เมื่อใดที่เสียงคร่ำครวญทุกข์ร้อนของชีวิตทั้งหลายยังไม่หมดไปจากโลกนี้ เราจะไม่ขอ เข้าสู่ปรินิพพาน" เพราะต่างก็มีพวกพุทธภูมิอีกมากมายที่ปรารถนาเช่นนี้ พิจารณาแล้วก็จะเป็นดึงกันไปดึงกันมา คุณไปก่อนผมไปหลัง เกี่ยงกันเป็นคนสุดท้ายอยู่นั่นแหละ จึงทำให้พระโพธิสัตว์ที่บารมียังอ่อนอยู่ หลงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวังวนแห่งวัฏฏสงสารไปไม่รู้จบสิ้น ผมมีแนวทางที่ดีกว่านี้...นอกเหนือจากเพียงแค่อฐิษฐานสั่งสมบารมีไปเรื่อยๆและรอเวลาตั้งความหวังไว้อย่างไม่รู้ต้นรู้ปลายแบบนั้น โดยที่ไม่มีแนวทางดำเนินเลย...! หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: phonsakw ที่ กรกฎาคม 17, 2011, 02:15:50 PM 1. ก็มันจะรื้อขนสัตว์ไปหมดได้อย่างไรด้วยวิธีนี้
2. "พระโพธิสัตว์กวนอิมอีกองค์ ไม่ทราบว่าองค์เดียวกันหรือเปล่า ทรงมีมหาปณิธานอยู่ข้อหนี่งว่า "เมื่อใดที่เสียงคร่ำครวญทุกข์ร้อนของชีวิตทั้งหลายยังไม่หมดไปจากโลกนี้ เราจะไม่ขอ เข้าสู่ปรินิพพาน" 1. ก็นั่นน่ะซิ มันจะรื้อขนสัตว์ไปหมดได้อย่างไร กวนอิมมีอยู่ทั่วโลกถึง 700 องค์ ที่เป็นปางของกวนอิมประทานพร และกวนอิมพันมืออีกไม่รู้เท่าไร ก็จะไม่ได้ พระโพธิสัตว์กวนอิมที่เป็นมนุษย์จึงไม่มีทางเป็นพระพุทธเจ้า อีกอย่างกวนอิมไม่เคยตั้งปณิธานขอเป็นพระพุทธเจ้าเลย พอรื้อขนสัตว์ไปหมดแล้ว ท่านก็เสร็จกิจ เข้าสู่ปรินิพพาน 2. พระโพธิสัตว์กวนอิม ที่ตั้งปณิธานว่า "เมื่อใดที่เสียงคร่ำครวญทุกข์ร้อนของชีวิตทั้งหลายยังไม่หมดไปจากโลกนี้ เราจะไม่ขอ เข้าสู่ปรินิพพาน" คือ กวนอิมประทานพร ที่ชาวจีนเรียกว่า เจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน แต่จริงๆแล้ว เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านที่เป็นกวนอิมไม่มีอยู่จริง เขาแต่งประวิติขึ้นมาเองเพื่อสร้างความประทับใจเท่านั้น หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: AVATAR ที่ กรกฎาคม 18, 2011, 03:15:09 AM เอาๆอยากจะแบ่งเป็นอีกเป็นกี่ภาค กี่องค์ กี่ภูติเจ้า กี่สัมโภคกาย ก็เชิญตามสบาย ก็นั่นแหละและมันจะหมดไปได้อย่างไรในเมื่อผมคนนึงที่ไม่ไปกับท่านด้วย... ;) เมื่อไม่ได้โพธิญาณไฉนเลยจะสอนคนหรือบอกทางสรรพสัตว์ให้บรรลุธรรมได้ คงต้องปล่อยให้หลงฟุ้งซ่านต่อไปตามยถากรรมเถิด หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ กรกฎาคม 19, 2011, 09:36:54 AM ยังมีสิ่งวิเศษ ที่อยู่ใกล้ตัว นะครับ มารู้ทันกาย รู้ทันใจ กันดีกว่าเน๊อะ
หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: loadlike ที่ ธันวาคม 21, 2011, 09:19:40 PM ขอบคุณครับ ข้อมูลดีๆ
หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: ballzazazz ที่ มกราคม 09, 2012, 11:01:54 PM เยี่ยมไปเลยครับ ผมเลือกทางสายกลางที่พระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดีกว่าครับ ทางแห่งพระนิพพาน ยังไงซะชาตินี้จะพยายามทำให้ได้ถึงอริยบุคคลขั้นต้นครับ ผมติดตามท่านAVATARมาตลอดครับผม
หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: slowmotion92 ที่ มกราคม 11, 2012, 04:23:49 PM เรียนรู้ครับ
หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: ballzazazz ที่ มกราคม 15, 2012, 03:45:29 PM ท่านรู้ไหมการที่ท่านนั้นรู้ไม่จริงแล้วนำมาสอนผู้อื่นนั้น มันจะเป็นบาปตามตัวท่านไป :o :o
หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: phonsakw ที่ มกราคม 16, 2012, 01:16:04 AM ท่านรู้ไหมการที่ท่านนั้นรู้ไม่จริงแล้วนำมาสอนผู้อื่นนั้น มันจะเป็นบาปตามตัวท่านไป :o :o ถ้าเราไม่รู้แล้ว ในแผ่นดินนี้ มีใครรู้ ช่วยบอกเราที เราจะไปกราบตีนเขาเลย หัวข้อ: Re: มีจุดดำ คือ ความเมตตา ดีไหม? เริ่มหัวข้อโดย: fantasiaz ที่ กรกฎาคม 27, 2012, 01:29:47 PM ขอบคุณครับได้ความรู้ดี
|