หัวข้อ: เล่าสูกันฟัง(นอกเรื่องอีกแล้ว) เริ่มหัวข้อโดย: mankho2001 ที่ พฤศจิกายน 02, 2011, 12:52:11 AM ได้ฟังมาจากอริยบุคคลท่านหนึ่งเมตตาเล่าให้ฟังว่า
1.น้ำท่วมครั้งนี้เป็นกรรมใหญ่ที่ต้องรับ โดยเฉพาะบางพวกที่ไปทำลายรูปปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผมที่พรรคการเมืองหนึ่งพระแม่ธรณีท่านเลยมีโมโหกับพวกมนุษย์ขี้เหม็น(ผมเล่าเฉยๆไม่เข้าข้างใครครับ) ท่านบอกว่าถ้าจะให้เคราะห์นี้หมดไปอย่างเร็วต้องให้คนที่ทำและสั่งการไปขอขมาพระแม่ธรณีเสียไม่งั้นน้ำจะท่วมถึงปีใหม่โน่น แม้ว่าการที่ข้าราชการบางท่านไปบวงสรวงพระแม่คงคาก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกครับ 2.ด้วยพระปรีชาญาณของพ่อหลวง พระองค์มีพระราชดำรัสว่า ปีนี้น้ำมากให้ค่อยๆปล่อยน้ำตามเขื่อนต่างๆตั้งแต่ต้นปี เขื่อนจะได้กักฝนที่ตกลงมาเอาไว้ แต่ไม่มีใครสนใจไม่มีใครทำตาม ท่านเตือนแล้วเกือบปี ก็เหมือนเมื่อก่อนที่ประเทศไทยจะแบ่งสี ท่านก็สอนให้รู้รักสามัคคีกันไว้ก่อนที่คนไทยจะทะเลาะกันเป็นปีอีกอย่างจังหวัดที่น้ำท่วมมากที่สุดเดือดร้อนมากที่สุด (จังหวัดที่เป็นกรุงเก่า) ก็เป็นจังหวัดสีแดง และหลายคนในสีแดงที่อยู่จังหวัดนี้กระทำการไม่เหมาะสม ไปลบหลู่เทพเจ้าแห่งน้ำ ก็เลยต้องเดือดร้อนไป รู้มั้ยครับว่า เทพเจ้าแห่งน้ำคือใครท่านคือเทวดาที่มีลมหายใจ ยังไงล่ะครับ ประเทศไทยโชคดีที่มีในหลวง หัวข้อ: Re: เล่าสูกันฟัง(นอกเรื่องอีกแล้ว) เริ่มหัวข้อโดย: AVATAR ที่ พฤศจิกายน 02, 2011, 08:59:20 AM ไม่ผิดเลยซักนิดเดียว การเมืองเรื่องของผลประโยชน์และการต่อรองเพื่อส่วนตนและพวกพ้อง โดยเอาประเทศชาติเป็นเดิมพัน ในเวลาที่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย คนไหนอยู่สีอะไรข้างใคร..? ผมมักจะได้ยินคนถามผมว่า เห็นคุณไม่ทุกข์ร้อนอะไร คุณอยู๋สีไหน ข้างไหนหรอ ? ผมจะตอบเค้าแบบนี้ครับ ผมไม่ได้อยู่สีไหน ข้างใครผมคิงไซด์ครับ ( KINGSIDE ) ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ หัวข้อ: Re: เล่าสูกันฟัง(นอกเรื่องอีกแล้ว) เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ พฤศจิกายน 02, 2011, 09:16:34 AM โชคดีแล้วครับที่ประเทศไทยมีองค์ในหลวง ท่านเปรียบเสมือนองค์พระโพธิสัตว์
ที่คุ้มครองประเทศไทยไว้ รวมถึงในแผ่นดินสยามนี้ ยังมีพระอริยะที่มากกว่าแห่งใดๆ ในโลกนี้ บุญบารมีของพระอริยะ และ ผู้ปฏิบัติธรรมที่สมควรแก่ธรรม จะปกปักษ์รักษาและแผ่กว้างออกไป ให้เหตุการณ์เหล่านี้ทุเลา และผ่านไปได้ด้วยดีครับผม แต่ทุกคนในประเทศต้องร่วมกันทุกความดี รักษาศึล กตัญญูต่อแผ่นดินด้วย ดังที่พระอาจารย์พุทธทาส ท่านบอกไว้ว่า "โลกรอดเพราะกตัญญู" หัวข้อ: Re: เล่าสูกันฟัง(นอกเรื่องอีกแล้ว) เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ พฤศจิกายน 02, 2011, 09:18:09 AM “คน ทุกคนในโลกมีชีวิตอยู่ได้และมีความสะดวกสบายอยู่ได้ เพราะอาศัยความรู้สติปัญญาความสามารถของผู้อื่น จนนับไม่ไหว หากไร้ปัจจัยอันสำคัญนี้เสียแล้ว เขาจะต้องตายแล้วตั้งแต่ออกจากท้องมารดาใหม่ ๆ เพราะไม่มียาจะกิน ไม่มีผ้าจะห่ม ไม่มีหลังคาจะอาศัย
เขา ไม่รู้จักหน้าค่าตาของผู้ให้กำเนิดการประกอบยา การทำเครื่องนุ่งห่ม การทำที่อยู่อาศัย และวิชาความรู้ต่าง ๆ แต่เขาก็เป็นหนี้บุญคุณของบุคคลเหล่านั้นมาเสียแล้วตั้งแต่ในท้องแม่ ฉะนั้น คนทุกคนมีความผูกพันในทางหนี้บุญคุณต่อกันและกัน จนนับไม่ไหว โดยไม่ต้องกล่าวถึงบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ซึ่งเป็นหนี้บุญคุณอยู่เหนือศรีษะ โดยตรงเลย แม้การที่คนในประเทศหนึ่ง ได้เป็นหนี้บุญคุณของคนในประเทศอื่น ก็เป็นสิ่งที่จะพิจารณาเห็นกันได้ไม่ยากเลย ความรู้และยอมรับรู้ในบุญคุณของผู้อื่นที่มีอยู่เหนือตนนี้เรียกว่า กตัญญุตา การพยายามทำตอบแทนบุญคุณนั้น ๆ เรียกว่า กตเวทิตา คนผู้รู้บุญคุณท่านเรียกว่า คนกตัญญู คนที่ทำตอบแทนเรียกว่า คนกตเวที, กตัญญูกตเวทิตา- ความรู้บุญคุณท่าน แล้วทำตอบแทนให้ปรากฏ นี้เป็นธรรมประคองโลกให้เป็นอยู่ได้ และอยู่ด้วยความสงบสุข คน ในโลกแต่ละคน ยิ่งไม่รับรู้ในความที่ตนเป็นหนี้บุญคุณของกันและกันอย่างที่จะแยกกันไม่ออก ยิ่งขึ้นเพียงใด ก็ยิ่งทำให้โลกเต็มไปด้วยความแข่งขันแย่งชิง โหดร้ายทารุณ และเกิดลัทธิการเมือง อันทำให้โลกระส่ำระสายมากยิ่งขึ้นเพียงนั้น ฉะนั้น ความสนใจธรรมะ คือ กตัญญูกตเวทิตาธรรม นี้ นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งทีเดียว.... คนอกตัญญูอย่างยิ่ง คือ คนที่ไม่ยอมรับว่าทุกคนในโลกเป็นหนี้บุญคุณต่อกันอย่างแน่นแฟ้น คน ที่มีความกตัญญูถึงที่สุด คือคนที่ยอมรับว่า แม้แต่สัตว์พาหนะ เช่น วัว ควาย ก็เป็นสิ่งที่มีบุญคุณ อย่าต้องกล่าวถึงบิดามารดาครูบาอาจารย์เลย ถ้าใครยอมรับรู้ในบุญคุณของวัวควายเป็นต้นแล้ว บ้านเมืองนั้นจะเต็มไปด้วยความสงบสุขเพราะมีแต่คนใจสูง รู้จักตอบแทนบุญคุณแม้แต่ควาย... คน ที่มีความกตัญญูละเอียดยิ่งไปกว่านั้น ย่อมรู้จักบุญคุณของป่าไม้ทุ่งนา ห้วยหนอง คลอง ลำธาร ถนนหนทาง และสิ่งสาธารณะอื่น ๆ กระทั่งดอกไม้และผีเสื้อซึ่งบินไปมาอยู่โดยปราศจากความรู้จักมักคุ้นกับผู้ ใด ผู้ ไม่รู้คุณของป่า ย่อมทำลายป่าเสียด้วยความเห็นแก่ตัวข้างเดียวจนลูกหลานไม่มีไม้จะปลูกเรือน กันอีกต่อไป จนห้วยหนองคลองลำธารเหือดแห้ง เพราะป่าอันเป็นกำเนิดนั้นถูกทำลายหมด ไม่มีความชื้นของป่าคายน้ำออกมาเป็นลำธาร และจะดึงดูดเมฆฝนให้มาตกเป็นฝน ณ ที่นั้นจนเพียงพอ คนที่มีความกตัญญูอันละเอียดสุขุมยิ่งขึ้นไปกว่านั้นอีก ย่อมรู้จักบุญคุณของศัตรูและปรปักษ์ ตลอดจนรู้ถึงสิ่งอันเป็นอุปสรรคชนิดต่าง ๆ ศัตรูทำให้คนกตัญญูมีความฉลาดและก้าวหน้ายิ่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้เขาประกอบด้วยคุณธรรมอันสูงยิ่งขึ้น ด้วยความอดกลั้นอดทนและการเสียสละเป็นต้น ผู้อิจฉาริษยาทำให้เรากลายเป็นคนหนักแน่นมั่นคง และมีความกรุณาชั้นสูงพิเศษที่คนธรรมดามีไม่ได้ ธรรมที่ถ่ายทอดโดยท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ ณ สวนโมกขพลาราม วัดธารน้ำไหล จ.สุราษฏร์ธานี ขอบพระคุณข้อมูล : http://www.dhammasatta.org หัวข้อ: Re: เล่าสูกันฟัง(นอกเรื่องอีกแล้ว) เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ พฤศจิกายน 02, 2011, 09:19:40 AM ไม่ผิดเลยซักนิดเดียว การเมืองเรื่องของผลประโยชน์และการต่อรองเพื่อส่วนตนและพวกพ้อง โดยเอาประเทศชาติเป็นเดิมพัน ในเวลาที่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย คนไหนอยู่สีอะไรข้างใคร..? ผมมักจะได้ยินคนถามผมว่า เห็นคุณไม่ทุกข์ร้อนอะไร คุณอยู๋สีไหน ข้างไหนหรอ ? ผมจะตอบเค้าแบบนี้ครับ ผมไม่ได้อยู่สีไหน ข้างใครผมคิงไซด์ครับ ( KINGSIDE ) ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน หัวข้อ: Re: เล่าสูกันฟัง(นอกเรื่องอีกแล้ว) เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ พฤศจิกายน 05, 2011, 11:23:21 PM หลวงพ่อปัญญา กล่าวว่า
ถ้า คนไม่รู้คุณของแผ่นดินแล้ว ก็ทำดีเพื่อแผ่นดินไม่เป็น แผ่นดิน ให้ทุกอย่างที่สรรพสัตว์ต้องการ รองรับทุกอย่างที่สรรพสัตว์ปล่อยออกมา ให้ชีวิต ให้อาหาร ให้ที่อยู่ ให้ยา ให้เสื้อผ้า และรองรับเวลาตาย ด้วย รักเป็นกันหรือยัง แผ่นดินแม่ ;D |