KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับ

รวมรูปภาพต่างๆเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา พาเที่ยววัด ใน Kammatan.com Gallery => บทความดีๆ เกี่ยวกับธรรมะ => ข้อความที่เริ่มโดย: sams ที่ เมษายน 14, 2012, 08:04:18 AM



หัวข้อ: งานแต่งงาน หรือ งานศพ ถือเป็นงาน มงคลในทัศนะความเห็นของ ลพ ประสิทธิ ถาวโร พระอริ
เริ่มหัวข้อโดย: sams ที่ เมษายน 14, 2012, 08:04:18 AM
งานแต่งงาน หรือ งานศพ ถือเป็นงาน มงคลในทัศนะความเห็นของ ลพ ประสิทธิ ถาวโร พระอริยะสงฆ์เถระแห่งวัดถ้ำยายปริก


 
 






หลวงพ่อประสิทธิ ถาวโร แห่งวัดถ้ำยายปริก ได้ให้ความคิดเห็น
เรื่อง งานมงคล
 
เป็นสิ่งปกติไปแล้วที่เมื่อมีเรื่องราวใดๆ ลูกศิษย์หลายคนของหลวงพ่อฯ จะนำเรื่องนั้นๆ มาถามหรือปรึกษาขอความเห็นจากหลวงพ่อเสมอ ทั้งนี้ก็เพื่อความแน่ใจว่าสิ่งที่จะทำนั้นถูกต้อง ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของแต่ละคน ห้ามกันไม่ได้ ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า เป็นการดูดวงผูกดวงจับยามหรืออะไร เป็นเพียงการถามหลวงพ่อว่าทำอย่างนั้นๆ ดีหรือไม่ ท่านก็จะตอบแนะนำไปด้วยหลักแห่งธรรมเสมอ ก็มีอยู่เท่านั้น
 
อดีตนายแพทย์ท่านหนึ่งของโรงพยาบาลเกาะสีชัง (ถัดมาท่านลาออกแล้วได้มาบวชอยู่กับหลวงพ่อจนถึงหลวงพ่อมรณภาพ แล้วท่านก็ย้ายไปอยู่วัดใกล้บ้านโยมพ่อโยมแม่ของท่าน) ท่านใช้ชีวิตโดยอาศัยวัดเป็นบ้านมานานแล้ว คือมาอาศัยกุฎิว่างหลังหนึ่งเป็นที่หลับนอน และยกบ้านพักที่ราชการจัดให้ให้แก่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลคนอื่นไป ตอนเช้าท่านก็ออกไปทำงาน ตอนเย็นก็กลับมานอนวัดเป็นปกติ ส่วนเงินเดือนก็นอกจากจะให้พ่อแม่ส่วนหนึ่งแล้ว ที่เหลือก็ถวายวัดทั้งหมด และโดยอุปนิสัยส่วนตัวของท่านแล้ว เป็นคนสมถะ พูดน้อย ปฏิบัติมาก และท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่หลวงพ่อเคยกล่าวถึงว่า "จิตเขาเป็นพระแล้ว!"
 
วันหนึ่งคุณหมอท่านนี้ได้รับการ์ดเชิญให้ไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนแพทย์ร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยขอนแก่น ท่านคงไม่อยากไปร่วมงานสังสรรค์ประเภทนี้เท่าใด ด้วยคงจะระอาในความวุ่นวายอะไรทำนองนั้น แต่ด้วยมารยาท อย่างไรเสียก็ต้องส่งเงินและการ์ดอวยพรกลับไปให้ ท่านจึงนำการ์ดเชิญนั้นไปถวายหลวงพ่อให้พิจารณา พร้อมขอคำแนะนำจากหลวงพ่อว่า ควรจะเขียนอวยพรคู่บ่าวสาวอย่างไรดี
 
หลังจากหลวงพ่ออ่านการ์ดเชิญแล้ว ท่านตอบว่า "ไม่ยากหรอก ให้เขียนลงไปในด้านหลังของการ์ดว่า "แด่คู่บ่าวสาว...การเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่ง" ว่าเท่านั้นคุณหมอก็รับคำหลวงพ่อ และรีบทำตามโดยเร็วมิได้แสดงอาการสงสัยใดๆ
 
หากแต่ผมเองซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย กลับเป็นฝ่ายสงสัย ก็อดถามหลวงพ่อไม่ได้ว่า "มันจะดีหรือครับหลวงพ่อ คนเขาแต่งงานกัน เป็นงานมงคล แต่ไปบอกเขาว่าการเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่ง เดี๋ยวเขาจะหาว่าไปแช่งไม่ให้เขามีลูกน่ะสิครับ" หลวงพ่อก็ตอบเร็วทันใดว่า "เอ็งน่ะพูดผิดแล้ว ใครว่างานแต่งงานเป็นงานมงคล!" ผมฟังแล้วก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่
 
หลวงพ่ออธิบายเพิ่มเติมว่า "งานแต่งงานน่ะเป็นงานอวมงคลนะพงศ์เอ๊ย คือ การที่คนเราไอ้อยู่คนเดียวดีๆ แล้วไปหาเรื่องใช้ชีวิตคู่ แถมมีลูกมีเต้าให้มันวุ่นวายน่ะ มันเป็นมงคลที่ไหนกัน แค่บริหารจิตบริหารขันธ์ตัวเองก็ยุ่งพอดีอยู่แล้ว ยังจะต้องมารับภาระขันธ์คนอื่นอีก เอาง่ายๆ เริ่มต้นจากเตรียมการงานแต่งก็วุ่นวายต้องแต่งหน้าเจ้าบ่าวเจ้าสาว โปะใบหน้าให้มันดูดีก็จัดเป็นของปลอมอย่างหนึ่งล่ะ ไหนจะเรื่องเงินๆ ทองๆ ไหนจะข้าวปลาอาหาร ไหนจะชักชวนแขกเหรื่อผู้ใหญ่ผู้โตมาคุยโวกัน แล้วทุกวันนี้มีหรือที่งานแต่งงานแล้วจะไม่มีเหล้าเข้าปาก ยิ่งตามบ้านนอกแล้ว ต้องล้มวัวล้มควายกัน มีแต่เรื่องล้วนแล้วแต่วุ่นวายด้วยโลกีย์วิสัย อย่างนี้แล้วมงคลมันอยู่ที่ไหนกัน
 
ส่วนงานมงคลที่แท้จริงน่ะ คือ"งานศพ"ต่างหาก เพราะเราไปแล้วได้พิจารณาสัจธรรม คือ ความจริงของชีวิต เช่น ได้เห็นศพก็ได้ปลงอนิจจังสังเวช ว่าดูเอาเถอะ เห็นรูปถ่ายของคนตายสิ ดูยังดีๆ แท้ๆ แต่เจ้าตัวตายไปแล้ว นอนอยู่ในโลงเสียแล้ว นั่นแหละมันไม่เที่ยง! มีเกิดมา ก็แก่ เจ็บ ตายไปเป็นธรรมดา ไม่มีใครหลีกเลี่ยงพ้นได้ ร่างกายในโลงนั้นทิ้งไว้ก็เน่าเปื่อยผุพังหรือเผาไฟฝังดินไป ตัวตนไม่มีหลงเหลือเลย! แปรสภาพไปหมดเป็นดิน น้ำ ลม ไฟ กลับคืนสู่ธรรมชาติ นั้นแหละคือความเป็นจริงที่ทุกคนต้องไปถึง ต้องพบต้องเจอด้วยกันทั้งหมด ครั้นพิจารณาบทสวดในงานศพ กุศลา ธัมมา อกุศลา ธัมมาฯ พิจารณาเนื้อธรรมให้ดี ก็อาจมีดวงตาเห็นธรรมได้ เห็นไหมล่ะมีแต่เรื่องกุศลทั้งนั้น แล้วอย่างนี้งานศพจะไม่ใช่งานมงคลหรือ?"
 
"ไม้สดชุ่มด้วยยางแช่ในน้ำ ไม่สามารถจะสีให้ไฟติดได้ฉันใด ผู้ที่มีกายไม่หลีกจากกาม มีความพอใจในกาม แม้จะบำเพ็ญเพียรได้ัรับทุกขเวทนากล้า ก็ไม่ควรได้ตรัสรู้ฉันนั้น