หัวข้อ: ถ้าคุณเข้าใจเรื่องนี้ คุณก็เข้าใจเรื่องบุญบาปและศีล 5 อย่างกระจ่างแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: phonsakw ที่ เมษายน 26, 2012, 11:45:45 AM จิตเป็นผู้กำหนดบาปบุญ กายและวาจาไม่ได้กำหนดบาปบุญ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว" พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นประธาน ธรรมทั้งหลายสำเร็จได้ด้วยใจ" ถ้ามีใจชั่วเสียแล้ว จะ พูด หรือ ทำ ประการใดก็ตาม ทุกข์ย่อมติดตามเขาไป ดุจล้อหมุนตามรอยเท้าโค ที่ลากเกวียนไป แต่ถ้ามีใจดีอยู่ จะพูด หรือ ทำ ประการใดก็ตาม สุขย่อมติดตามเขาไปเหมือนเงาตามตัว พระพุทธเจ้าบัญญัติว่่า การผิดศีล 5 เป็นบาป เพราะ 95% ของการผิดศีล 5 จิตเป็นอกุศลในตอนที่พูดหรือทำสิ่งนั้น มันจึงเป็นบาป แต่ถ้าจิตเป็นกุศลตอนที่ผิดศีล 5 ไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือทำสิ่งนั้นก็ตาม การผิดศีล 5 ก็จะกลับกลายเป็นบุญแทน สรุป พระเวสสันดรยกเมียและลูกให้เป็นทาสคนอื่นเป็นบาปทางวาจา และการกระทำชัดๆ แต่พระพุทธเจ้าบัญญัติว่่าเป็นมหากุศล เพราะตอนที่พระเวสสันดรยกเมียและลูกให้เป็นทาสคนอื่น จิตคิดว่า ยอมเสียสละสิ่งที่ตนเองรักที่สุดให้คนอื่น เพื่อจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า จะได้ช่วยมนุษย์และสรรพจิตในสังสารวัฏฏ์ให้รู้วิธีหลุดพ้นออกจากความทุกข์ได้ ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องจิตเป็นผู้กำหนดว่า อะไรเป็นบุญ เป็นบาป ไม่ใช่กายและวาจาเป็นกำหนดบุญบาป เราก็ไม่มีวันเข้าใจพระพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง หัวข้อ: Re: ถ้าคุณเข้าใจเรื่องนี้ คุณก็เข้าใจเรื่องบุญบาปและศีล 5 อย่างกระจ่างแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: phonsakw ที่ เมษายน 26, 2012, 11:46:52 AM บททดสอบความเข้าใจเรื่องบาปบุญ
ดูก่อนสารีบุตร พระรามโพธิสัตว์เจ้าได้บำเพ็ญกองบารมีทั้งหลายมาช้านานเป็นอันมากแล้ว แต่กองบารมีธรรมครั้งหนึ่งนั้น ปรากฏเป็นยอดปรมัตถบารมีอันประเสริฐ .....ในเมื่อครั้งพระศาสนาพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระรามองค์นี้เป็นบรมโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ มีนามว่านารทมาณพ วันหนึ่งนารทมาณพได้ทัศนาการเห็นองค์พระพุทธกัสสปสัพพัญญูบรมครูเจ้าครั้งนั้น ก็มีความโสมนัสยินดีปรีดา คิดว่าจะกระทำสักการบูชาแก่พระองค์ให้เห็นศรัทธาของอาตมา มิได้คิดแก่ชีวิตอินทรีย์ คิดแล้วจึงเอาผ้า ๒ ผืนชุบน้ำมัน พันสรีรกายตั้งแต่เศียรเกล้าตลอดปลายเท้าทั้ง ๒ แล้วก็จุดไฟขึ้นบนศีรษะเป็นประทีปกระทำสักการบูชา ถวายแก่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้า แล้วตั้งปณิธานความปรารถนาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระภาคเป็นอันงาม อันว่าองค์อวัยวะน้อยใหญ่ในสรีรกายของข้าพระพุทธเจ้า คือเลือดเนื้อเป็นอาทิ กระทำเป็นทานถวายแก่พระองค์ในกาลบัดนี้ ปัจจโย โหตุ จงบังเกิดมีเป็นปัจจัย ให้อุปการคุณอุปถัมภกยกชูข้าพระพุทธเจ้าให้ได้สำเร็จแก่พระสร้อยสรรเพชุดาญาณ ในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเถิด เหตุใด ครั้งนั้นองค์สมเด็จพระพุทธกัสสปเจ้า จึงตรัสพยากรณ์ในท่ามกลางบริษัททั้ง ๔ ทำนายว่า นารทมาณพนั้น ในกาลเบื้องหน้า ตัวของมาณพคนนี้จะได้บังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่าพระรามสัพพัญญูในมัณฑกัปป์อันนั้น ที่สำคัญคือว่า องค์สมเด็จพระพุทธกัสสปเจ้า ได้กล่าวสรรเสริญชมว่า จะหามนุษย์ผู้ใดเปรียบเสมอสองหามิได้ นานไปจะได้บังเกิดเป็นสมเด็จพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง - ด้วยผลอานิสงส์ที่ท่านมิได้เอื้อเฟื้อแก่สรีรกายของท่าน เสียสละชีวิตของตนทำมหาบริจาค มีเจตนาอันใหญ่ยิ่งกว่าบารมีทั้งหลายทั้งปวง สรุปและถาม เหตุใดการจุดไฟเผาหัวตัวเองของนารทมาณพ เป็นการฆ่าตัวตาย เป็นปาณาติบาตสุดสยองชัดๆ จึงกลายเป็นมหากุศล มหาบริจาค อันจะนำไปสู่ความเป็นพระรามะพุทธเจ้า ต่อจากพระศรีอารย์พุทธเจ้า ถ้าคุณตอบปัญหานี้ได้ เท่ากับคุณเข้าใจศาสนาพุทธอย่างกระจ่างแล้ว หลุดจากการหลองลวงของมาร หัวข้อ: Re: ถ้าคุณเข้าใจเรื่องนี้ คุณก็เข้าใจเรื่องบุญบาปและศีล 5 อย่างกระจ่างแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: magicmo ที่ มิถุนายน 12, 2012, 03:46:23 PM ขอบคุณนะครับ
|