หัวข้อ: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ กันยายน 08, 2012, 01:12:34 PM (http://www.kammatan.com/gallary/images/20120906130952_ajan_mhun.jpg)
"ผู้ถือไม่มีบาป ไม่มีบุญ ก็มากมายเข้าแล้ว แผ่นดินนับวันแคบ มนุษย์แม้จะถึงตาย ก็นับวันมากขึ้น นโยบายในทางโลกีย์ใดๆก็นับวันประชันขันแข่งกันขึ้น พวกเราจะปฏิบัติลำบากในอนาคต เพราะเนื่องด้วยที่อยู่ไม่เหมาะสม เป็นไร่เป็นนาจะไม่วิเวกวังเวง ศาสนาทางมิจฉาทิษฐิ ก็นับวันจะแสดงปฏิหาริย์ คนที่โง่เขลาก็จะถูกจูงไปอย่างโคและกระบือ ผู้ที่ฉลาดก็เหลือน้อย ฉะนั้นพวกเราทั้งหลายจงรีบเร่งปฏิบัติธรรม ให้สมควรแก่แก่ธรรมดังไฟที่กำลังใหม้เรือน จงรีบดับเร็วพลันเถิด ให้จิตใจเบื่อหน่ายคลายเมาวัฏสงสาร ทั้งโลกภายในหนังหุ้มอยู่โดยรอบ ทั้งโลกภายนอกที่รวมเป็นสังขารโลก ให้ยกดาบเล่มคมเข้าสู้ คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พิจารณาติดต่ออยู่ไม่มีกลางวันกลางคืนเถิด ความเบื่อหน่ายคลายเมาไม่ต้องประสงค์ ก็จะต้องได้รับแบบเย็นๆและแยบคายด้วยจะเป็นสัมมาวิมุตติ และสัมมาญาณะอันถ่องแท้ ไม่ต้องสงสัยดอก พระธรรมเหล่านี้ไม่ล่วงไปไหน มีอยู่ ทรงอยู่ในปัจจุบัน จิตในปัจจุบัน ที่เธอทั้งหลายตั้งอยู่หน้าสติ หน้าปัญญา อยู่ด้วยกัน กลมกลืนในขณะเดียวนั้นแหละ" โอวาทครั้งสุดท้ายของอาจารย์มั่น (บันทึกโดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต) จากหนังสือ"เพชรน้ำหนึ่ง" ขอบพระคุณข้อมูลจาก : เครือข่ายกลุ่มพุทธธรรมกรรมฐาน สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หัวข้อ: Re: โอวาทครั้งสุดท้ายของอาจารย์มั่น บันทึกโดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ มกราคม 11, 2014, 12:14:17 PM บาปหยาบๆ กะยังละบ่ได้
จั่งใด๋สิมาถามหาพระนิพพาน อีพ่อ อีแม่กูเอ๋ย หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: โอวาทครั้งสุดท้ายของอาจารย์มั่น บันทึกโดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ พฤษภาคม 27, 2014, 10:41:35 PM ให้จิตเป็นสมาธิก็เพราะอยากให้ยืนดูสิ่งของ มันจึงชัด
ถ้าไม่ยืนดู วิ่งไป มันไม่ชัด วิ่งดูสิ่งของมันไม่ชัด เพราะเหตุฉะนั้นให้จิตเป็นสมาธิ ตั้งมั่นอยู่ในลมเข้าออกบ้าง ตั้งมั่นอยู่ในร่างกระดูกบ้าง คุณมีเท่าใด โทษมีเท่าใด ให้เห็นหมดนี่ ถ้าวิ่งดูสิ่งของ มันก็ไม่ชัด เหตุฉะนั้น จึงให้เป็นสมาธิบ้าง และไม่ให้ติดอยู่ในสมาธิด้วย และไม่ให้ติดอยู่ในปัญญาด้วย และไม่ให้ติดอยู่ในผู้รู้ด้วย ธรรมชั้นสูงให้ส่งคืนหมดแน่ะ ผู้พิจารณาธรรมชั้นสูง พร้อมทั้งลมเข้าลมออก เป็นแต่สักว่ารู้ เป็นแต่สักว่าเห็นอยู่ ไม่มีกลางวันกลางคืน เพราะเขาจะถอนอุปาทานในทั้งอดีตอนาคต จะไม่สำคัญตัวในที่ใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อเขาไม่สำคัญตัวในที่ใดๆ ทั้งสิ้น วิญญาณของเขาก็ดับไป จิตของเขาก็ว่าง ธรรมของเขาก็ว่างไปอีกด้วย ว่างจากความยึดถือ สิ้นลมปราณเขาก็เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน ไม่มาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารอีก เพราะไม่มีสิ่งที่ยึด เพราะว่างไปหมดแล้ว ว่างจากผู้ยึดถือ ว่างจากเราจากเขา จากสัตว์ จากบุคคล ธาตุดินก็ส่งคืนให้ธาตุดิน ธาตุน้ำก็ส่งคืนให้ธาตุน้ำ ธาตุไฟก็ส่งคืนให้ธาตุไฟ ธาตุลมก็ส่งคืนให้ธาตุลม ผู้รู้ก็ส่งคืนให้ผู้รู้ จิตก็ส่งคืนให้จิต ไม่เข้าไปแย่ง ไม่เข้าไปจี้ ไม่เข้าไปปล้น ผู้นั้นก็พ้นทุกข์ในวัฏสงสารเท่านั้น ไม่มีอะไรมาก หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: โอวาทครั้งสุดท้ายของอาจารย์มั่น บันทึกโดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ พฤษภาคม 27, 2014, 10:43:16 PM มาเถิดมา ลูกเอ๋ย หลานเอ๋ย ที่นี่ไม่มีวุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง รีบมาเถิด
คำสอนแต่ละบท แต่ละบาท คล้าย ๆ กับว่า พระบรมศาสดาเรียกอยู่ทุกวัน เรียกลูก ๆ หลาน ๆ ให้เข้าสู่พระนิพพาน ที่นั้นเป็นที่วุ่นวาย ที่นั้นเป็นที่ขัดข้อง ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง คือที่จิตที่ใจขององค์ท่านไม่มีหลง เรียกว่าไม่วุ่นวาย เรียกว่าไม่ขัดข้อง เป็นธรรมะอันไม่ตาย คำสอนแต่ละบท แต่ละบาท เรียกเข้าสู่พระนิพพานทั้งนั้น ไม่ได้เรียกให้คิด ไม่ได้เรียกร้องให้คิดอยู่ในมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ พรหมสมบัติ ให้เห็นโทษในมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ พรหมสมบัติ เพราะอยู่ใต้อำนาจอนิจจัง เกิดขึ้นแล้วก็แปรปรวนและแตกสลาย ไม่มีใครเป็นเจ้าเป็นจอมเป็นจริงอยู่ ไม่มีกลางวัน กลางคืน อีกด้วย ไม่ลงธรรมาสน์อีกด้วย ไม่จบเกษียณอีกด้วย หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ พฤษภาคม 27, 2014, 10:46:53 PM ผู้เห็นอนิจจังชัดกับสุปฏิปันโน ก็มีความหมายอันเดียวกัน
ผู้เห็นอนิจจังชัดกับผู้เรียนธรรมจักกัปปวัตนสูตรจบ ก็มีความหมายอันเดียวกัน ผู้เห็นทุกขังชัด ผู้เห็นอนัตตาชัด ก็คือผู้นั้นเรียนอนัตตลักขณสูตรจบ ก็มีความหมายอันเดียวกัน เพราะเนื้อความในอนัตตลักขณสูตรก็มีอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทั้งนั้น ทั้งอดีต ทั้งอนาคต ทั้งปัจจุบันด้วย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตานี้ ในพระพุทธศาสนาเทศน์มากกว่าเพื่อน เพราะเป็นนิยยานิกธรรม นำสัตว์ให้เบื่อหน่ายในวัฏสงสาร เมื่อสัตว์ทั้งหลายเห็นอนิจจังชัด เห็นทุกขังชัด เห็นอนัตตาชัดในขันธสันดานแล้ว ความเพลินในวัฏสงสารของสัตว์ทั้งหลายก็ยุบตัวลง ความตะเกียกตะกาย ความทะเยอทะยานในภพไหน ๆ ก็ยุบตัวลง ห้ามเบรคห้ามล้อลง วิญญาณปฏิสนธิก็เอือมระอาจะมาเกิดแก่เจ็บตายอีก ผู้เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาชัด กับผู้เปิดประตูพระนิพพานก็มีความหมายอันเดียวกัน หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ กรกฎาคม 05, 2014, 09:01:56 AM (http://kammatan.com/gallary/images/20140705090132_luangpu_lar.jpg)
ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ใดๆ ในโลกล้วนทุกขัง ใดๆ ในโลกล้วนอนัตตา ผู้ใดพิจารณาอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ให้เห็นพร้อมกันในขณะเดียว พร้อมกับลมเข้าออก ผู้นั้นก็จะเบื่อหน่าย คลายเมา ในวัฏสงสาร จะสิ้นความสงสัยในวัฏสงสาร จะเป็นตัวมหาศีล จะเป็นตัวมหาสมาธิ จะเป็นตัวมหาปัญญา หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ กรกฎาคม 05, 2014, 09:03:53 AM “..ผู้รักใคร่ภาวนาอยู่เป็นเนืองนิจ เรียกว่าผู้นั้นบารมีแก่กล้าแล้ว
ท่านผู้ใดขี้เกียจ ก็ให้ทราบเถิดว่าบารมียังอ่อน เหลวไหลมาก..” หลวงปู่หล้า เขตปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ กรกฎาคม 05, 2014, 09:04:38 AM ไผมันยังคานำเลขนำผาอยู่ บ่ต้องถามดอกว่าคุณธรรมฮอดไส ฮอดแต่ปากมันหันละ
( ผู้ใดที่ยึดติดกับเลข(หวย) อยู่ อย่าถามเลยว่าถึงคุณธรรมระดับไหน ถึงแต่ปากเท่านั้น) หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ กรกฎาคม 05, 2014, 03:00:30 PM (http://kammatan.com/gallary/images/20140705150007_luangpu_lar2.jpg)
"ถ้าชาวโลกทุกถ้วนหน้าถึงพระพุทธเจ้าพระธรรมะเจ้าพระสงฆะเจ้า เป็นที่พึ่งที่ระลึกที่ปฏิบัติบูชา ผูกขาดจองขาดไม่เอาลัทธิอื่นมาปนเปสร้างปัญหา พร้อมทั้งทรงศีลห้าบริบูรณ์แล้ว โลกมนุษย์ทั้งโลก จะเป็นโลกุตตระโลก สงบเย็นปราศจากสรรพเวรสรรพภัยให้เห็นประจักษ์แก่ตานอกและตาใน จะพากันผินหน้าจิตใจพร้อมทั้งเจตนามุ่งหน้า สูงส่งตรงไปสู่ธรรมอันไม่ตายคือพระนิพพาน โดยมิได้มีพระอาจารย์ภายนอกมาชักจูงเลย เพราะอำนาจพระอาจารย์อันทรงอยู่มีอยู่ที่อู่ของขันธสันดาน ที่เรียกว่าสันทิฏฐิโกและปัจจัตตัง จะเป็นพลังธรรมะทิพย์ ใจทิพย์ สติทิพย์ ปัญญาทิพย์ เกิดขึ้นไม่ต้องสงสัยสามัคคีกันไปในธรรม ไม่ตายแล" หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ กรกฎาคม 06, 2014, 09:19:52 AM นกบินในอากาศวันยันค่ำก็ไม่มีรอยใช่หรือไม่
มีดเฉือนน้ำในที่ใดๆ วันยันค่ำก็ไม่มีรอยใช่หรือไม่ มีปัญหาว่าท่านผู้พ้นไปแล้วท่านรักษาจิตหรือไม่ ท่านเกรงความผิดหรือไม่ ขอตอบว่า ถ้าพระอรหันต์ยังรักษาจิตอยู่พระอรหันต์ก็ต้องเป็นทุกข์ใช่ไหม เพราะเกรงว่ามันจะผิดก็ต้องระวังจิตอยู่เหมือนคนคุมนักโทษ หลวงปู่ก็ต้องตอบบ้าๆ บอๆ ให้ฟัง ดังนี้แหละ เพราะหมดหนทางที่จะตอบ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ กรกฎาคม 06, 2014, 09:20:20 AM และก็มีคำถามสอดเข้ามาว่า อนุปาทิเสสนิพพานเล่า มีใจอยู่หรือไม่ มีผู้รู้อยู่หรือไม่ ?
หลับตาตอบแบบบ้า ๆ บอ ๆ โง่ ๆ เง่า ๆ เต่า ๆ ตุ่น ๆ ว่า ฯ อนุปาทิเสสนิพพานมิใช่ใจ มิใช่ผู้รู้ เหนือใจ เหนือผู้รู้ไปจนไม่มีที่หมาย ถ้าหมายอยู่ก็พอเหมือน ๆ หมุน ๆ หมัน ๆ ฯ และก็อยากถามว่า ใจก็ดีผู้รู้ก็ดี เกิดดับเป็นไหม ? หลับตาตอบอย่างพอใจว่า เกิดดับเป็น จัดเข้าในนามธรรมได้ จัดเข้าในสังขารได้อีก เหตุนี้จึงยืนในที่ต่างว่า "เป็นแต่สักว่ารู้เป็นแต่สักว่าเห็น" เพราะทำลายอัตตวาหุปาทานไปในตัวแล้ว ไตรสิกขาก็รวมพลกันมาในตัวแล้ว หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ เมษายน 15, 2015, 08:15:00 AM "ท่านผู้ใดสำคัญตัวว่าเป็นพระอรหันต์
ท่านผู้นั้นก็เพิ่มอุปาทานขึ้น เพราะพระอรหันต์ไม่ได้สำคัญตัวในที่ใด ๆ เลย" หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ เมษายน 15, 2015, 08:15:29 AM หลายคนมีความคิดว่า น่าจะไปทำบุญกับวัดที่จน ๆ ขาดแคลนห่างไกล
ไม่น่าจะไปทำบุญกับวัดที่รวย มีเจ้าอาวาสดัง ๆ จะว่าถูกก็ถูก ถ้าปรารภตามอดีตชาติแล้วผู้เคยได้ทำบุญร่วมกันมาแต่ภพก่อนชาติก่อนแล้ว จะดีหรือไม่ดีก็บันดาลได้ทำบุญร่วมกันเพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องเกี่ยวกับบุญที่โยงมาแต่ภพก่อนชาติก่อนอันเคยได้ร่วมกัน ข้อนี้สำคัญมาก หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ เมษายน 15, 2015, 08:16:08 AM "พระนิพพานมิใช่ผู้รู้ เหนือผู้รู้ไปจนไม่มีที่หมาย"
หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ เมษายน 16, 2015, 03:56:36 PM "สูญในพระนิพพานมีขอบเขต สูญจากกิเลสเท่านั้น รสของพระนิพพานมีอยู่ พระนิพพาน ไม่เกิดไม่ดับไปไหน เป็นอนัตตาธรรม เราจะเอาพระนิพพานมาเป็นอนัตตา เหมือนขันธ์ ๕ และกิเลสทั้งหลายมันก็ไม่ถูก เรียกว่าแยกอนัตตาธรรมไม่ถูก"
.... พระนิพพานมิใช่ผู้รู้ เหนือผู้รู้ไปจนไม่มีที่หมาย พระนิพพานเหนือผู้รู้ไป จนไม่มีที่หมาย ถ้าหมายอยู่ก็พอเหมือนๆ นี่เอง ก็พอหมุนๆ นี่เอง มีปัญหาว่าถ้าอย่างนั้นก็สูญสิ แต่สูญในพระนิพพานมีขอบเขต สูญจากกิเลสเท่านั้น รสของพระนิพพานมีอยู่ ใครเป็นผู้ดื่มรสพระนิพพาน ก็พระนิพพานเท่านั้น จะได้รับรสพระนิพพาน ไม่เป็นหน้าที่ของสังขารจะไปก้าวก่าย พระนิพพานเป็นอนัตตาหรือไม่ พระนิพพานไม่ได้อยู่ในวงแขนของท่านผู้ใดโดยถ่ายเดียว เป็นของกลางอยู่อย่างนั้น ไม่เกิดไม่ดับไปไหน เป็นอนัตตาธรรม ที่ไม่เกิดไม่ดับไปไหน ไม่มีใครใส่ชื่อล้อนามให้ก็ตาม ก็เป็นจริงทางไม่เกิด ไม่ดับอยู่อย่างนั้น เราจะเอาพระนิพพานมาเป็นอนัตตา เหมือนขันธ์ ๕ และกิเลสทั้งหลายมันก็ไม่ถูก เรียกว่าแยกอนัตตาธรรมไม่ถูก เช่นผู้รู้ดังนี้ จะเอาผู้รู้พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเทียบกับพระปัจเจกๆ มาเที่ยบกับสาวก สาวิกา อรหันต์ก็เรียนกว่ายกตนเทียมท่าน สิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ ชาวพุทธจะรู้เท่านั้น ...... หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ เมษายน 16, 2015, 03:56:55 PM มาเถิดมา ลูกเอ๋ย หลานเอ๋ย ที่นี่ไม่มีวุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง รีบมาเถิด
คำสอนแต่ละบท แต่ละบาท คล้าย ๆ กับว่า พระบรมศาสดาเรียกอยู่ทุกวัน เรียกลูก ๆ หลาน ๆ ให้เข้าสู่พระนิพพาน ที่นั้นเป็นที่วุ่นวาย ที่นั้นเป็นที่ขัดข้อง ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง คือที่จิตที่ใจขององค์ท่านไม่มีหลง เรียกว่าไม่วุ่นวาย เรียกว่าไม่ขัดข้อง เป็นธรรมะอันไม่ตาย คำสอนแต่ละบท แต่ละบาท เรียกเข้าสู่พระนิพพานทั้งนั้น ไม่ได้เรียกให้คิด ไม่ได้เรียกร้องให้คิดอยู่ในมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ พรหมสมบัติ ให้เห็นโทษในมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ พรหมสมบัติ เพราะอยู่ใต้อำนาจอนิจจัง เกิดขึ้นแล้วก็แปรปรวนและแตกสลาย ไม่มีใครเป็นเจ้าเป็นจอมเป็นจริงอยู่ ไม่มีกลางวัน กลางคืน อีกด้วย ไม่ลงธรรมาสน์อีกด้วย ไม่จบเกษียณอีกด้วย หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ มิถุนายน 13, 2015, 10:29:53 AM ถามเรื่องพระเครื่อง
ปัจจุบันมีเกจิอาจารย์จำนวนมาก ที่สร้างพระเครื่อง ปลุกเสก ปลุกพระทั้งเพื่อประโยชน์แก่ศาสนาและอื่นๆ ไม่ทราบว่าผิดหลักพุทธศาสนาหรือไม่ ในความเห็นของหลานๆ คือการสร้างพระขายนี้ อย่างน้อยคนก็ได้ทำบุญโดยมีสิ่งของตอบแทน มีพระเป็นที่ยึดเหนี่ยวประกอบกุศลกรรม (ถ้าไม่ทำแบบขายพาณิชย์) ติดพระเครื่องก็ยังดียังดีกว่าติดเหล้า ติดยา ติดการพนัน ฯลฯ ข้อเสียติดวัตถุจนลืมธรรมซึ่งมีค่าประมาณมิได้ หลานอยากทราบทัศนคติธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ เพราะคนทุกวันนี้ติดวัตถุกันมากเหลือเกิน (รวมทั้งหลาน) ครับ ตอบ เรื่องพระเครื่องที่ปัจจุบันเกจิอาจารย์ทำมากเป็นการผิดหรือไม่ และปลุกเสกพระทั้งเพื่อประโยชน์คือการสร้างพระขาย ในข้อนี้หลวงปู่ไม่พอใจอธิบายจะว่าเป็นคำถามที่ไม่ควรตอบก็ถูก แต่ในชีวประวัติของหลวงปู่ ได้เล่าเรื่องขององค์หลวงปู่มั่นแล้ว หลวงปู่มั่นกล่าวว่า "องค์ท่านเป็นพระพุทธเจ้าอย่างเต็มที่แล้ว เราดีอย่างไรจึงจะไปเสกให้ท่านขลัง" เหล่านี้เป็นต้น แต่นิสัยของหลวงปู่ไม่นึกอยากเสียแล้ว เพราะหลวงปู่ถือว่า คุณพุทธ ธรรม สงฆ์ ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี อธิษฐานและตั้งสัจจะผูกขาดจองขาดไว้ที่ดวงใจ ให้เป็นข้าเป็นทาสพุทธ ธรรม สงฆ์ อยู่ทุกเมื่อแล้ว จะตีความหมายว่ายอมเอาจิตใจผูกไว้กับน้ำมูกน้ำลาย ของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แล้ว และก็น้อมเข้ามาใส่ใจไว้อย่างนี้แน่นหนาแล้ว และก็น้อมใจไปผูกไว้อย่างนี้แน่นหนาแล้ว ไม่ได้ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพียงทุติฯ ตติฯ เท่านั้น อธิษฐานไว้ถึงทุกเมื่อ ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี จนถึงที่สุดทุกข์โดยชอบในปัจจุบันโดยด่วนด้วย อนึ่ง การที่ครูบาอาจารย์บางท่าน บางหมู่ ท่านทำเช่นนั้น ก็ขอมอบให้เป็นเรื่องของท่านซะ (แต่หลวงปู่ไม่ทำ) สำหรับหลวงปู่ซื้อไม่ซื้อ ขายก็ไม่ขาย ที่อยู่ในศาสาของหลวงปู่ไม่ได้เผดียงในทางตรงหรือทางอ้อม ให้ญาติให้ญาติโยมเอามาให้ ท่านเหล่านั้นเอามาเอง และก็ไม่บอกวันจะมาด้วย เรื่องเหล่านี้พูดน้อยไม่พออธิบายพูดหลายก็เป็นโทษ สมัยโลกจรวด สมัยโลกดาวเทียม เดี๋ยวก็ถูกหาว่ากีดขวางรายได้ แต่หลวงปู่พิจารณาว่า ผู้เรียนหนังสือ ก สระ กา ข สระ ขา ก็พออนุโลมบ้าง แต่ถ้าจะตั้งจนเป็นพุทธพาณิชย์ก็ดูจะเฟ้อเกินไป และมีคำที่คนชอบแย้งว่า แต่การ์ตูนเขาก็ยังขายได้ จะห้ามปรามไม่ให้ซื้อให้ขายนั้น ย่อมเป็นอจิณโดยเสียแล้ว แต่หลวงปู่ชอบปลีกตัวไม่เอาด้วย แต่มีผู้จะให้เอามาไว้เป็นของสงฆ์ไม่เอาไปในทิศทั้ง ๔ เพราะการเอาพระพุทธรูปในด้วย ไม่รู้จะเอาไว้ที่ไหน ถ้าเอาไว้ย่ามก็ไม่รู้ว่าอะไรต่ออะไรระคนปนกันอยู่ ถ้าหากว่าเอาแขวนคอ บางทีก็ลอดใต้ถุนก็มี เป็นส่วนตัวแต่ปรากฎว่ากวาดลานวัดไปเห็นพระพุทธรูปแต่โบราณ (คงจะเป็นรูปเล็ก) เห็นคอหักอยู่ก็นึกเป็นอารมณ์ในอนุสติ พุทธา ธัมมา สังฆา ก็ได้สำเร็จพระอรหันต์ มีปัญหาว่า ศาสนาพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ที่มาเป็นยุคๆ ก็ต้องมีพระพุทธรูปมาทุกยุคทุกสมัย แต่จะถือเป็นเรื่องของขลังของรางไปทางไสยศาสตร์ก็คงจะน่าควรคิดอยู่ ตั้งเป็นกองๆ ไว้ขายเหมือนผักเหมือนปลาก็คล้ายกับว่า พ่อของเราถูกขาย หรือยังไงก็ขอเรียนไว้กับท่านผู้รู้ ถ้าจะพูดในที่สุดแล้ว ก็ยังดีกว่าที่เขาถือศาสดาอื่น ซึ่งเป็นอนันตริยธรรม ๖ ไม่ทรงสรรเสริญ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ มีนาคม 18, 2016, 12:07:09 PM (http://kammatan.com/gallary/images/20160318120625_luangpu_lha.jpg)
ถ้าไม่ยืนยันว่าจิตเป็นตน ตนเป็นจิต ก็ข้ามทะเลหลงไปแล้ว ธรรมก็ทรงธรรมอยู่ตามธรรมชาติเท่านั้น พระนิพพานไม่ใช่ผู้รู้ ฟากผู้รู้ไปจนไม่มีที่หมาย พระนิพพานฟากผู้รู้จนไม่มีที่หมายนั้น คือ ไม่ยึดตนเป็นผู้รู้ ผู้รู้เป็นตน ผู้รู้เป็นแต่สักว่ารู้ เมื่อไม่ยึดถือว่าผู้รู้เป็นตน ตนเป็นผู้รู้ ผู้รู้ก็ดี ผู้ไม่ยึดถือผู้รู้ก็ดี ก็จบกัน ณ ที่นั้นเอง (ฟากเป็นคำอิสานแปลว่า เลยไปอีก) หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ มีนาคม 18, 2016, 12:08:33 PM (http://kammatan.com/gallary/images/20160318120820_luangpu_lha2.jpg)
"การที่หนังสือบางเล่มว่า "นิพพานอยู่เหนือรูปเหนือนาม" อันนั้นก็เป็นการถูกเพราะรูปนามไม่ใช่นิพพาน ถึงแม้จิตจะไม่ใช่พระนิพพาน ด้วย เหตุนั้นท่านจึงบัญญัติว่ารูป จิต เจตสิก นิพพาน ดังนี้ นิพพานจึงไม่ใช่จิต จิตไม่ใช่นิพพาน แต่อาศัยจิตเป็นทางเดินถึงพระนิพพาน เพราะสามารถรวมไตรสิกขาในจิตนั้นได้" หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ มีนาคม 18, 2016, 12:11:12 PM คำถาม :
หลวงปู่เจ้าค่ะ ขอเรียนถามข้อสงสัยในสมาธิ พอจิตดิฉันเข้าสู่ภวังค์จะเหมือนร่างกายหล่นจากที่สูงๆ มากลึกสุดประมาณ แต่มิได้เป็นบ่อยนะเจ้าค่ะ นานๆถึงจะเป็นทำให้ดิฉันสงสัยว่าคืออะไร กราบขอหลวงปู่ช่วยให้ความกระจ่างแก่ผู้ด้อยความรู้ด้วยเจ้าค่ะ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ตอบ : เรื่องการภาวนานั้นเป็นของดีแล้ว เพราะมีความปิติและพอใจในธรรมที่ปรากฏ เป็นอย่างนั้นด้วยอำนาจของปิติธรรม นักภาวนาก็ต้องเจออย่างนั้น บางทีปรากฏว่าเหาะเหินเดินอากาศหรือเดินจงกรมในอากาศ หรือขัดสมาธิในอากาศหรือพลิกคว่ำพลิกหงายในอากาศ เป็นการแสดงปาฎิหาริย์ไปในตัวก็มีสารพัดจะเป็นไป แต่เมื่อหมดกำลังก็ถอนออกมา เมื่อถอนออกมาแล้วจงพิจารณาว่า ธรรมอันละเอียดถึงเพียงนี้ก็ยังอยู่ใต้อนิจจังความไม่เที่ยง ขอให้น้อมลงอย่างนั้นอย่าสำคัญว่าเป็นตัวตน เรา เขา สัตว์ บุคคลใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อไม่สำคัญในส่วนนี้จิตก็สูงขึ้นไปกว่าเดิมอีกในตัวแล้ว จงพยายามทำบ่อยๆ เทอญ และอีกประการหนึ่งให้พิจารณาเห็น อนิจจังพร้อมกับลมหายใจออกเข้า พร้อมทั้งเห็นทุกข์เห็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนกลมกลืนกันในขณะเดียว ไม่มีอันใดก่อนอันใดหลัง พร้อมกับลมออกเข้า แม้ศีล สมาธิ ปัญญาที่เรียกว่าไตรสิขา ก็รวมพลุกันอยู่ ณ ที่นั้นเอง จะบัญญัติหรือไม่บัญญัติก็เป็นจริงอยู่อย่างนั้นเอง เมื่อเห็นชัดในส่วนนี้พร้อมทั้งชำนาญและเห็นเนืองๆ อยู่ ความระอาในวัฎฎะสงสารที่เคยหลงมาแล้วก็จะรู้ตามเป็นจริง จะได้ไม่ทะยานอยากในโลกทั้งปวง เพราะโลกทั้งปวงมีแต่เกิดขึ้นและแปรดับ และมีทุกข์ไม่ใช่ตัวตนดังที่ว่ามาแล้วนั้น จะได้สิ้นความสงสัยในปัญหาของเจ้าตัวที่เคยสร้างขึ้นจะแก้ไม่ยาก โลกคืออะไร.... วัตถุภายนอกคืออะไร..... ที่สร้างขึ้นด้วย ดิน น้ำ ไฟ ลมก็ดี หรือความนึกคิดแห่งสุข ทุกข์ อุเบกขาก็ดี เกิดขึ้นแล้วก็แปรปรวนและดับไปเสมอกันทั้งนั้น เมื่อลูกไม้ของโลกมีเพียงเท่านี้แล้วนั้น เราก็ไม่มีหนทางจะไปสงสัยอะไรอีก มีแต่รู้ตามเป็นจริง ปฎิบัติตามเป็นจริงพ้นจากความสงสัยตามเป็นจริงเท่านั้น ความดีใจเสียใจในโลกทั้งปวงก็ห้ามเบรคลง ปัญญาก็เกิดขึ้นเหนือความหลงของตนไปซะ เรียกว่ารู้เท่าทุกข์รู้เท่าสังขารแล้ว จิตก็โอนไปเอนไปโน้มไปในพระนิพพาน คืนกลับความหลงของเจ้าตัวแบบเย็นๆ เท่านั้นเอง ด้วยเดชพระพุทธศาสนา พวกเราทั้งหลาย จงรู้ตามความเป็นจริงในสังขารทั้งปวง พร้อมกับลมออกเข้าในปัจจุบันยิ่งๆ ขึ้นไป หลุดพ้นจากความหลงในปัจจุบันตามเป็นจริงอยู่ทุกเมื่อเทอญ ปัญหาของธรรมแท้ไม่มาก ที่มันมากวนเวียนก็เพราะกิเลสของเราทรงอำนาจ เมื่อปัญญาทรงอำนาจแล้วความสงสัยของเราก็หายไปไม่ขบถคืนเลย จะว่ารู้แจ้งโลกก็ได้ จะว่ารู้แจ้งสังขารก็ได้ จะว่ารู้ทันความหลงของเจ้าตัวก็ได้ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ขอบคุณข้อมูลจาก FB พี่แมว Supani Sundarasardula และ http://www.kammatan.com หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ มีนาคม 28, 2016, 04:03:10 PM นกบินในอากาศวันยันค่ำก็ไม่มีรอยใช่หรือไม่ มีดเฉือนน้ำในที่ใดๆ วันยันค่ำก็ไม่มีรอยใช่หรือไม่
มีปัญหาว่าท่านผู้พ้นไปแล้วท่านรักษาจิตหรือไม่ ท่านเกรงความผิดหรือไม่ ขอตอบว่า ถ้าพระอรหันต์ยังรักษาจิตอยู่พระอรหันต์ก็ต้องเป็นทุกข์ใช่ไหม เพราะเกรงว่ามันจะผิดก็ต้องระวังจิตอยู่เหมือนคนคุมนักโทษ หลวงปู่ก็ต้องตอบบ้าๆ บอๆ ให้ฟัง ดังนี้แหละ เพราะหมดหนทางที่จะตอบ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ กรกฎาคม 29, 2016, 09:03:01 AM การชนะคนอื่นหมื่นแสนหน
เดี๋ยวกลับตนเป็นคนแพ้ ไม่แน่หนอ ชนะตนจากชั่วเท่านั้นพอ ย่อมเกิดก่อสุขแท้แก่ตัวเอง หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดยพระอาจารย์หล้า เขมปตฺโต เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ กรกฎาคม 29, 2016, 09:03:25 AM พระนอนสี่
เศรษฐีนอนห้า ขี้ข้านอนทั้งวัน ยินดีในสิ่งที่ตนได้ พอใจในสิ่งที่ตนมี เป็นคนโชคดีที่สุดในโลก หลวงปู่หล้า เขมปัตโต |