หัวข้อ: ความรู้เกี่ยวกับคำว่า "เซียน" ที่ถูกต้อง เริ่มหัวข้อโดย: phonsakw ที่ ตุลาคม 21, 2012, 06:54:16 PM คำว่า "เซียน (great master)" เป็นชื่อที่คนไทยรู้จักกันมานานแล้ว และใช้เรียกผู้มีความชำนาญบางอย่างมากเป็นพิเศษว่า "เซียน" เช่น เซียนพระเครื่อง เซียนสนุ๊ก คนไทยและคนจีนมักเรียกผู้วิเศษ ที่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ มีอำนาจอิทธิฤทธิ์หรือมีของวิเศษต่างๆว่า "เซียน"
แต่ความหมายของเซียน ไม่ได้มีเพียงเท่านั้น มันมากกว่านั้นเยอะ ในบทความนี้ผมขอเขียนไว้เฉพาะบางส่วน สมัยก่อนคำว่าเซียน สามารถเทียบได้ใกล้เคียงกับคำว่า "ฤาษี" สมัยนี้น่าจะใกล้เคียงกับคำว่า ."พระเกจิ หรือ ผู้วิเศษ" - ในทางโลก ผู้ที่เก่งหรือชำนาญในทางใดทางหนึ่งเป็นพิเศษ เราเรียกว่า "เซียนด้านนั้นด้านนี้ - ในทางศาสนา ผู้ที่เก่งหรือชำนาญในด้านการทำความดีต่างๆ จนถึงขั้นบำเพ็ญสมถะหรือสมาธิให้ใจสงบนึ่ง จนได้ฌาน 4-8 พระพุทธเจ้าเรียกว่า ผู้มีสมถะเป็นยาน หรือ ผู้บำเพ็ญสมถะจนบรรลุระดับสูง การบริกรรมภาวนาใดๆ ล้วนเป็นการทำให้จิตใต้สำนึก หรือภวังค์จิตของเราสงบ การรวมหรือเพ่งจิคอยู่ที่จุดเดียวนั้น ถ้าเป็นการโฟกัสโดยจิตที่ฟุ้งซ่านไปที่จุดเดียว ย่อมทำไม่ค่อยได้ และไม่มีพลังงานจิตที่พอเพียง แต่การโฟกัสจิตที่ไม่ฟุ่งซ่านไปที่จุดเดียว ย่อมเกิดพลังงานจิตที่มหาศาลขึ้นมาได้ ผู้ที่ฝึกสมถะจนได้ฌานระดับสูง และสามารถผู้ที่นำพลังงานจิตไปใช้ประโยชน์ได้ดีมี 5 จำพวก หรือพวกมีอภิญญา 5 ภาวนาปลุกจิตใต้สำนึกจนสำเร็จเป็นเซียน พระพุทธเจ้าไม่ได้สรรเสริญผู้ที่ทำสมถะจนได้อำนาจวิเศษใดๆ ที่เราเรียนว่า เซียน เลย แต่พระพุทธองค์สรรเสริญเฉพาะเซียน ที่นำเอาอำนาจวิเศษเหล่านั้น ไปขจัดขัดเกลากิเลสตนหมดเท่านั้น เซียนพวกนี้มี 2 พวก 1. พระสมถยานิก ผู้มีสมถะเป็นยาน(เครื่องนำไป) หมายถึง ผู้เจริญสมถกรรมฐาน จนได้ฌานก่อนแล้วจึงเจริญวิปัสสนาให้เกิดปัญญาวิมุตติต่อ 2. พระอุภโตภาควิมุต คือ พระอรหันต์ผู้บำเพ็ญสมถะมาเป็นอย่างมากจนได้สมาบัติ ๘ แล้ว จึงใช้สมถะนั้นเป็นฐานบำเพ็ญวิปัสสนาต่อไปจนบรรลุอรหัตตผล หลุดพ้นจากความทุกข์ " เราย่อมอยู่ด้วยธรรม(ที่เป็น)เครื่องขัดเกลากิเลส(อย่างถูกต้องดีแล้ว) ดูกรจุนทะ แต่ธรรมคือฌาน(ทั้งหลาย)นี้ เราไม่กล่าวว่า เป็นธรรมเครื่องขัดเกลา ในวินัยของพระอริยะ เรากล่าวว่า (ยัง)เป็น(เพียง)ธรรมเครื่องอยู่(ให้)เป็นสุขในอัตภาพนี้" หมายความว่า เซียน มี 2 จำพวก 1. เซียนที่ได้อภิญญา 5 อย่างใดอย่างหนึ่ง = "เซียน" ผู้สำเร็จฌานสมาบัติต่างๆ แล้วเป็นผู้อยู่อย่างเป็นสุขตามอัตภาพของตน คือใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขเท่าที่สภาพความเป็นอยู่ 2. เซียนที่ได้อภิญญา 5 ไปต่ออภิญญา 6 = เซียน ผู้สำเร็จฌานสมาบัติต่างๆ แล้วเลื่อนระดับไปจนบรรลุอรหัตตผล หลุดพ้นจากความทุกข์ ด้วยการทำวิปัสสนากรรมฐาน และการทำให้สมถะกรรมฐานของตน จนไม่หลุดหลงไปตามกิเลสตัณหาตลอดกาล เช่น พระอิศวร ราชาแห่งโยคะ พระพุทธองค์เรียกผู้ทำสมถะกรรมฐานของตน จนไม่หลุดหลงไปตามกิเลสตัณหาตลอดกาลว่า พระอรหันต์ ที่เจโตวิมุตติไม่กำเริบแล้ว แต่เดิม...เซียน(ผู้วิเศษ)ที่มีแค่อภิญญา 5 ใช้พลังจิตที่ขำนาญของตน แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆได้ ถือเป็น เซียนธรรมดา(ผู้วิเศษธรรมดา) แต่เมื่อเป็นเซียนที่บรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์ ที่เจโตวิมุตติไม่กำเริบแล้ว เป็นอรหันต์แล้ว เราจึงเรียกท่านว่า "เซียนอรหันต์ เซียนพุทธะ กับ อรหันต์โพธิสัตว์" เซียนอรหันต์ เซียนพุทธะ หรือ โพธิสัตว์อรหันต์ แตกต่างจากเซียนธรรมดา(ผู้วิเศษธรรมดา) ตรงที่เซียนธรรมดา(ผู้วิเศษธรรมดา)เป็นแค่อทิสมานกาย(กายทิพย์มนุษย์) ในขณะที่เซียนอรหันต์ เซียนพุทธะ หรือ โพธิสัตว์อรหันต์ เป็นเซียนหรือเป็นโพธิสิตว์ ที่กำเนิดจากพระอรหันต์ท่านนั้นดับหรือละลายอทิสมานกาย(กายทิพย์มนุษย์)ของตนไปแล้ว จึงได้กายธรรมหรือธรรมกาย แล้วกายธรรมหรือธรรมกายก็นิรมิตกายทิพย์ตัวใหม่ที่ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายออกมา เรียกว่า "สัมโภคกาย หรือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์บริสุทธิ์" ในขณะที่อทิสมานกาย(กายทิพย์มนุษย์)นั้นเกิดแก่เจ็บตายได้ เพียงแต่ถ้าเป็นเทพหรือเทวดาจะมีอายุยืนยาวกว่ามนุษย์เท่านั้น ยิ่งเป็นพรหม(ทางโลกหรือโลกียะ)จะอายุยาวนานมากๆๆๆๆๆ จนถึงขนาดหลงผิดไปเลยว่า ตนเองเป็นอมตะ อยู่ได้ชั่วนิจนิรันดร เช่น พกาพรหม และอุทกพรหม ที่ทั้งคู่หลงผิดว่าพรหมชั้นที่ตนอยู่คือนิพพาน ย้ำ! ผู้ที่แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆได้ จนถึงขั้นเป็นเซ็ยน น่าจะเป็นผู้ที่ได้ ฌาน ๔ จตุตถสมาบัติ ฌาน หรือกว่านั้นขึ้นไปจนถึงฌาน 5-8 ซึ่งเป็นอรูปฌาน ...สมถยานิก = ผู้มีสมถะเป็นยาน คือ ท่านผู้เจริญสมถะจนได้ฌานสมาบัติแล้วจึงเจริญวิปัสสนาต่อจนได้สำเร็จอรหันต์ หัวข้อ: Re: ความรู้เกี่ยวกับคำว่า "เซียน" ที่ถูกต้อง เริ่มหัวข้อโดย: keroro ที่ ตุลาคม 24, 2012, 10:59:17 AM ขอบคุณนะครับ
หัวข้อ: Re: ความรู้เกี่ยวกับคำว่า "เซียน" ที่ถูกต้อง เริ่มหัวข้อโดย: keroro ที่ ตุลาคม 25, 2012, 02:12:47 PM ขอบคุณมากๆครับ
|