หัวข้อ: พระฉันนะ เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 11:27:57 PM ในบรรดาพระภิกษุที่ว่ายากสอนยากนั้น ไม่มีใครเกินพระฉันนะ พระฉันนะหรือเดิมชื่อนายฉันนะ
เป็นผู้ที่เกิดพร้อมเจ้าชายสิทธัตถะประสูติ เป็นผู้รับใช้ใกล้ชิด ในยามที่เจ้าชายออกบวชก็ออกตามเสด็จพร้อมด้วยม้ากัณฐกะ จึงได้ชื่อว่าเป็น สหชาติ (ผู้เกิดในเวลาเดียวกันพร้อมกัน) เพราะอย่างนี้ จึงได้หยิ่งทะนงตนเองว่าเป็นคนใกล้ชิดพระพุทธเจ้ามาแต่ไหนแต่ไร จึงไม่ค่อยยอมรับการว่ากล่าวตักเตือนจากพระรูปอื่น แม้พระพุทธเจ้าจะไม่เคยให้ท้ายเลยก็ตาม พระฉันนะชอบด่าพระอัครสาวกสองท่านคือ พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ว่า "อันตัวเรานั้นเป็นผู้เดินทางไปพร้อมกับพระพุทธเจ้าในคราวท่านออกผนวช ส่วนพระสองรูปนี้กลับเที่ยวประกาศตนว่า เป็นพระสารีบุตรบ้าง เป็นพระโมคคัลลานะบ้าง เที่ยวประกาศตนว่าเป็นพระอัครสาวก" พระพุทธเจ้าทรงทราบ ก็เรียกมาว่ากล่าวตักเตือน พระฉันนะก็นิ่งรับฟัง พอพระพุทธเจ้าเสด็จไป ก็เริ่มด่าพระอัครสาวกอีก แม้พระองค์จะเรียกมาตักเตือนอีกจนถึงครั้งที่ ๓ ว่า พระอัครสาวกทั้งสองรูปเป็นกัลยามิตรที่ดี เป็นผู้ประเสริฐ จงคบกัลยาณมิตรเพื่อนผู้ดีงามเช่นนี้เถิด แม้กระนั้น พระฉันนะได้ฟังโอวาทแล้วก็ยังไม่เชื่อฟัง ยังคงด่าพระอัครสาวกอีกต่อไป พระพุทธเจ้าจึงตรัสแก่บรรดาพระภิกษุว่า ภิกษุทั้งหลาย ขณะที่เรายังคงอยู่ พวกเธอคงไม่อาจอบรมสั่งสอนฉันนะได้ แต่เมื่อเราปรินิพพานไปแล้ว จึงจะสามารถทำได้ พระอานนท์จึงกราบทูลถามว่า จะให้ทำเช่นไรต่อพระฉันนะ พระองค์จึงได้ตรัสว่า ให้ลงพรหมทัณฑ์แก่ฉันนะ ครั้นพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไปแล้ว พระสงฆ์ก็ประกาศลงพรหมทัณฑ์แก่พระฉันนะ ขอพระฉันนะได้ยินเช่นนั้น ก็เกิดความทุกข์ขึ้นในใจ จิตใจเศร้าหมองเป็นลำดับ จนล้มสลบลงถึง ๓ ครั้ง เมื่อฟื้นคืนสติ ก็ได้อ้อนวอนต่อคณะสงฆ์ว่า ขอท่านทั้งหลายให้โอกาสกระผมเถิด ว่าแล้วก็กลับตนประพฤติตนใหม่เป็นพระภิกษุที่ดี จนปฏิบัติธรรมได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด พรหมทัณฑ์ คือ การที่พระสงฆ์ประกาศไม่คบ ไม่พูดคุย ไม่สนทนา ไม่ประกอบพิธีกรรมต่อพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งที่ประพฤติตนเป็นคนว่ายากสอนยาก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า พึงหลีกหนีจากคนไม่ดี พึงเข้าสนทนาเรียนรู้จากบัณฑิตผู้ฉลาดทรงคุณธรรม และการเป็นคนว่ายากสอนยากมักเป็นอยู่ลำบาก เมื่อตนไร้ที่พึ่งพิง จึงควรประพฤติตนให้ว่าง่ายสอนง่าย ..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/140929 (https://www.gotoknow.org/posts/140929) |