หัวข้อ: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดย พระอาจารย์หลวงปู่คำดี ปภาโส เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ สิงหาคม 24, 2015, 03:23:44 PM (http://kammatan.com/gallary/images/20151115114856_luangpu_kamdee.jpg)
ความเห็นที่ถูก นั้นคือ "การเห็นจิตตามความเป็นจริง เห็นกายตามความเป็นจริง" คือเห็นธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ของตนและของคนอื่นสักแต่ว่าเป็นธาตุ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตนตัว เราเขา และเห็นว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ถ้าเราสามารถเห็นได้แบบนี้แล้ว เรียกว่า "เห็นกายตามความเป็นจริง" ส่วนที่ว่าเห็นจิตตามความเป็นจริงนั้น ท่านถือสภาพรู้เป็นตัว ไม่ได้ถือเวทนา ๓ เป็นตัว เวทนา ๓ ก็คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อุเบกขาภาวนา (ความไม่สุขไม่ทุกข์คือเป็นกลาง) สิ่งเหล่านี้ก็จะต้องเห็นเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีตนไม่มีตัวในเวทนา ๓ ถือแต่ความรู้เป็นตัว ถ้าเราสามารถเห็นได้แบบนี้แล้ว เรียกว่า "เห็นจิตตามความเป็นจริง" ที่มา การเห็นกายและจิตตามความเป็นจริง หลวงปู่คำดี ปภาโส หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดย พระอาจารย์หลวงปู่คำดี ปภาโส เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ สิงหาคม 24, 2015, 03:24:33 PM การประกาศตนเป็นพุทธมามกะ เป็นอุบาสกอุบาสิกาในพระพุทธศาสนา พูดง่ายๆ ก็คือ
การบวชขั้นต่ำในพระพุทธศาสนา เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเกิดเคราะห์ภัยต่างๆ ก็ให้ทำอย่างนี้ก็จะหายเคราะห์ภัยนั้นๆ ถ้าเคยถือพระภูมิเจ้าที่อยู่ ก็ให้เลิกให้ละเสีย บรรดาภูตผีปีศาจที่เราเคยนับถืออยู่นั้น เป็นภูตผีปีศาจที่เป็นบาป จึงไม่สามารถที่ไปเกิดได้ เป็นผีที่ไม่มีบุญกุศลจึงไม่ได้เกิด ที่มาสิงในมนุษย์ก็เพราะเขาอยากเกิดนั้นเอง เราเป็นมนุษย์ที่ประเสริฐแล้ว มีชั้นภูมิที่สูงกว่าเขาแล้ว ไฉนจึงยังไปยึดภูตผีปีศาจเหล่านั้นอีกเล่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรวิเศษไปกว่าพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์เจ้า เป็นที่พึ่งที่สุดของมนุษย์ ในทางศาสนาให้เรานับถือพระไตรสรณคมน์เป็นที่พึ่งที่ระลึก ในทางโลกให้เราถือบิดามารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ผู้มีพระคุณอื่นๆ ตลอดถึงองค์พระมหากษัตริย์เป็นที่พึ่ง เป็นบุคคลที่ควรกราบไหว้บูชา และควรตอบแทนคุณ ถ้าเราไปถือในศาสนาอื่นอย่างจริงจัง ก็ทำให้ขาดจากไตรสรณคมน์ได้เหมือนกัน หรือมัวไปยึดถือ ภูต ผี ปีศาจ ไปกราบไหว้ผี ก็ทำให้ขาดจากพระไตรสรณคมน์เช่นเดียวกัน หลวงปู่คำดี ปภาโส หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดย พระอาจารย์หลวงปู่คำดี ปภาโส เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ พฤศจิกายน 15, 2015, 11:48:01 AM "คนทุกข์คนจนในโลกนี้ไม่ใช่ทุกข์เพราะเสือกิน
ไม่ใช่ทุกข์เพราะงูร้ายกัด ไม่ใช่ทุกข์เพราะช้างฆ่า แต่ทุกข์เพราะความโลภ ความโกรธ ความหลงของตน" ... หลวงปู่คำดี ปภาโส หัวข้อ: Re: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดย พระอาจารย์หลวงปู่คำดี ปภาโส เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ สิงหาคม 22, 2017, 10:56:33 AM บางคนภาวนาไม่อยากเห็นภาพต่างๆ เช่น นรก สวรรค์ เทวดา เป็นต้น
การที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรแปลก ที่ว่าไม่แปลกก็เพราะว่า เมื่อเราเห็นแล้ว กิเลสของเราก็ยังอยู่เหมือนเดิม บางคนแถมยังทำให้เกิดกิเลสเพิ่มมากขึ้นอีกเสียด้วย คือถือว่าตนเองเป็นผู้วิเศษ ที่สามารถเห็นสิ่งต่างๆ เหล่านั้นได้ เลยไม่ยอมกราบไหว้ใครทั้งสิ้น จนกลายเป็น สัคคาวรณ์ มัคคาวรณ์ ปิดกั้นทางมรรค ทางผล ทางนิพพาน ไปโดยปริยาย เป็นความเห็นที่ผิดจากหลักศาสนา พวกเราท่านพากันฝึกหัดสติลูบๆ คลำๆ กันอยู่อย่างไรเล่า จึงมิรู้ช่องแนวทางพ้นทุกข์เสียที ด้วยเหตุนี้ ขอให้พากันยึดหลักสติปัฏฐาน ๔ เป็นหลักฝึกสติให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ นี่แหละ บรรดาสิ่งสมมุติที่เราไปยึดถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของเรานั้น ก็จะได้เพียงชีวิตหนึ่งๆ เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสามี ภรรยา หรือสมบัติต่างๆ เมื่อเราตายไปแล้ว เราจะยึดถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเราอีกไม่ได้ เราจะเอาสิ่งต่างๆ เหล่านั้นติดตามไปสวรรค์ นรก หรือที่ไหนๆ ก็ไม่ได้ ตรงกับคำว่า “สมบัติของโลก ก็ต้องอยู่ในโลก” หนังสือ คติธรรมของหลวงปู่คำดี ปภาโส |