หัวข้อ: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ตุลาคม 25, 2010, 01:46:22 PM โลกมี เสน่ห์ ตรงที่
จิต มีอารมณ์ 3 ประการ ครือ *อยากมี **อยากเป็น **ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ตุลาคม 25, 2010, 01:59:57 PM ต่อไป
คือ มี ตัวกู ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ตุลาคม 25, 2010, 04:22:23 PM ยังมี
ความเกิด การเจริญเติบโต หรือเรียกว่าการเดินทางเข้าหา ความแก่ ความแก่ หรือความเสื่อม ระหว่างทางของความเจริญเติบโตและความแก่ จะมีของแถม(ที่ไม่มีผู้ใดปราถนา) คือ ความเจ็บป่วย ความไม่สมหวัง ต้องการสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น ความพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจ ความโศกเศร้า ความร่ำไร รำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ เมื่อผ่าน เสน่หาของโลกมาอย่างยาวนาน หรือสั้นบ้าง ...สุดท้ายก็ล้วนต้องผ่าน ประตูของทางออกสู่ภพใหม่ ที่เรียกว่า ความตาย ;D ระ หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ตุลาคม 25, 2010, 04:36:05 PM ต่อ จากตัว กู
ก็มี ของๆกู อาทิเช่น *ความเห็น/ความเชื่อของ..กู *ผัวเมีย ลูก *บ้าน รถ ที่ดิน เพชร เงิน ทอง ทั้งนี้ทั้ง นั้น ล้วนเกิดจาก *โมหะ หรือ ความหลงที่ว่ามีตัวตนของกู ** ลูกน้องของโมหะ คือ โทสะ ความไม่พอใจ ในสิ่งที่ขัดใจ ***ลูกน้องอีก 1ท่านคือ โลภะ คือความโลภ ความอยากในอารมณ์ที่พอใจ (ผ่าน ทางประตูกาย/ใจ ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กายแลใจ ) .... ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ตุลาคม 25, 2010, 04:56:08 PM สงคราม เพื่อการหากิน เลี้ยงกาย
เช้าเดินทางออกไปทำงาน แลกปัจจัย มาหาซื้ออาหาร ของใช้ เย็นมา ทั้งครอบครัว ต่างกลับมาพบหน้ากันแบบ ...อะไร แบบ หมดเรียวหมดแรง นอนหลับไม่กี่ชั่วโมง ..เช้ามา ก็พากันไปอีกแล้ว วนเวียนไป วววววันแล้ว วันเล่า สัปดาห์แล้ว สัปดาหฺเลล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า และชาติแล้วชาติเล่า (... ;D คนพิมพ์ก็ยังพิมพ์ แล้วพิมพ์เล่า ;D) หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ตุลาคม 25, 2010, 09:54:58 PM คนโง่ ย่อมทำลายทั้งตนเอง และผู้อื่น
ด้วยกาย วาจา และใจ การไม่คบคนพาล เป็นมงคลหนึ่ง ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ตุลาคม 26, 2010, 01:03:34 PM อาหาร เป็นที่สุดของกามตัณหา
เพราะ เมื่อต้องการรับประทานอาหาร *เริ่มต้น ต้องมีการเลือกชนิดของอาหาร(ที่ชอบ) **ต่อไป สั่ง เมื่ออาหารมาวางตรงหน้า เริ่มสัมผัสด้วยตามองภาพอาหาร และรับกลิ่นด้วยจมูก ***เมื่อชิมอาหาร ตอนนี้เป็นการสัมผัสด้วย ลิ้น (รสและการกระทบเช่นความกรอบ ความนุ่ม ) จมูก(กลิ่น) ****เมื่อรสใดยังขาดอยู่ ต้องเริ่ม ปรุงรสที่ชื่นชอบ เคยสังเกตหรือไม่ ว่า อาหารจะมีรสชาติดีประมาณคำที่ 1-4 ต่อจากนั้น จะเกิดความเคยชิน และอาจต้องเพิ่มการปรุงรสซ้ำ ---------- ในแต่ละวัน ชนิดของอาหาร ที่รับประทาน ยังต้องเปลี่ยนชนิด เพราะเบื่อ ชนิดเดิมๆ (ตัวอย่าง เช้ากาแฟ กลางวันข้าว-ก๋วยเตี๋ยว เย็นอาจเป็นข้าวเหนียว-ลาบ-ส้มตำ ) -------------------------------------------------------- อารมณ์ที่หลากหลายเป็นสุดยอดของการตอบสนองจิต+เจตสิก(ตัณหา)--------------------------------------------------------- ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ตุลาคม 30, 2010, 09:08:54 AM เวลาคนตาย
สัปเหร่อจะใช้ด้าย สายสิญน์ มัดไว้ณ.ตำแหน่ง ต่างๆ 3ที่ 1.คอ 2.ข้อมือ 3. ข้อเท้า นี่แหละ สเน่ห์ บ่วง ยางเหนีว ที่ร้อยรัด จิตของเรา ท่านๆ เอาไว้ มันคือ อะไร.. หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ตุลาคม 31, 2010, 11:23:21 PM อากาศเย็น
เริ่มหายใจลำบาก น้ำมูกไหล และจามแข่งกะหมา ที่บ้าน ...แย้ว ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 12:50:10 PM การตรวจสอบตนเองว่า ยังมีกิเลสหรือเปล่า
ก็คือ เมื่อ เรา ยัง รู้สึก + ตอบโต้ทางใจ/กาย/วาจา อยู่เมื่อมีสิ่งมากระทบ มีขั้นตอนคือ *ขั้นแรกคือกระทบที่ใจ(และมีการประมวลผล) **ขั้นต่อมาคือ ทำ หรือพูด หรือทั้ง 2 อย่าง ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ธันวาคม 19, 2010, 03:32:37 PM โลก ต้องการ ลาภ ยศ สรรเสริญ และสุข แบบไม่มีที่สิ้นสุด
ในขณะที่ ธรรม มีจุดสิ้นสุด คือ ละความชั่วจนถึงที่สุด ทำความดี จนถึงที่สุด และ ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ธันวาคม 21, 2010, 09:52:32 PM โลด มีความแนบแน่น ของ
ความมีตัวกู และของๆ กู (ในบางกรณีคือ ความรู้ที่ลอกเขามา เถียงกัน...สนั่น เว็บ) ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: AVATAR ที่ ธันวาคม 21, 2010, 11:26:57 PM เถียงกันสนั่นฟาดฟันกันให้ตายก็ไม่จบร็อก...
เพราะต่างคนก็ต่างเก่งกันทั้งน้าน แต่นั่นมันก็เป็น สเน่ห์..ของ(แบบ)โลกๆ นั่นแหละครับ หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ ธันวาคม 26, 2010, 11:21:57 PM อือ
ก็ มัน มันส์ ตามเสน่ห์ ของโลก ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ มกราคม 04, 2011, 09:07:49 PM เวลาที่ มี เป็น หลบได้ เป้นครั้งคราว
ก็ว่า ตู ...ละ แล้วก็ ตะกายมี ตะกายเป้น ตะกายหลบ กัน ไม่สิ้นสุด.... ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ มกราคม 29, 2011, 10:50:40 PM กิน เสต็กกะทะร้อน แบบไต้หวัน มี เนื้อสัตว์ ไข่ ผักสีเขียว และน้ำราดที่ทั้งหวานและเค็ม
อร่อย หรือเปล่า ก็แค่ กิน หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: wimon12311 ที่ กันยายน 02, 2011, 02:03:29 PM ถ้าตัดความอยากออกไปได้ ก็หลุดพ้นแล้วหล่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ มีนาคม 20, 2012, 10:06:58 PM เมื่อวาน
ได้รับการร้องขอ (แกมขู่) ตามแบบโลกๆ ที่จะแบมือเอาอย่างเดียว ให้เค้าไปแล้ว (เซ็งง่ะ) แต่มาพิจารณาว่า เท่านี้ ยังน้อย นิด ๆ ๆ ๆ เมื่อนึกถึงสิ่งที่พระพุทธเจ้า มอบให้ต่อ ผู้ขอ , ผู้ที่มิได้ร้องขอ ผ่านการทดสอบ แบบ สุดๆ ของความสาหัส สากรรจน์ **แล้ว เท่านี้ ทำไม เราจะทำไม่ได้ละ ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: golfreeze ที่ มีนาคม 20, 2012, 10:48:26 PM ฮ่าๆๆ ไม่ได้เข้าทักท่าน the suffering นาน
สบายดีนะครับท่าน ช่วงนี้ปฏิบัติเป็นอย่างไรบ้างหรอครับ เล่าสู่กันฟังหน่อยเด้่อ หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ เมษายน 01, 2012, 06:46:25 PM ของเก่า ๆ ที่ เร้าใจ เย้ายวน ดึงดูด ให้หลงไหล มี 3
และ วิธีการต่อสู้ ก็มี 3 เช่นกัน เมื่อ 1.กามราคะ สู้ด้วย ศีล 2.โทสะ สู้ด้วย สมาธิ 3. โมหะ สู้ด้วย ภาวนา (ตามด้วยปัญญารู้แจ้ง ทุกข์) หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: simma557 ที่ เมษายน 14, 2012, 06:46:29 PM แล้วก็ ตะกายมี
หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ กันยายน 22, 2012, 09:51:54 PM บารมี 10 หรือเป่า
และคูณ ระดับความยาก เข้าไปอีก 3 คือ บารมี อุปบารมี ปรมัตถบารมี ได้เป็น 30 เป่า ;D หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: keroro ที่ กันยายน 25, 2012, 12:45:01 PM ดีจริงๆเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: สเน่ห์ ..ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: the suffering ที่ กันยายน 29, 2012, 10:15:43 PM บารมี 30 นี้เป็นของผู้ที่ปราถนาเป็นพระพุทธเจ้า
ส่วนสาวก ง่ายกว่ามาก เพราะเพียงเดินตามทางที่พระพุทธองค์ สร้างทางเดินให้แล้ว (ด้้วยพระบารมีเต็มเปี่ยม บริบูรณ์ ทั้ง 30 ทัศน์ นั้น) ;D |