KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับความสำคัญของพระพุทธศาสนา และทุกอย่าง เกี่ยวกับ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกอย่างที่เกี่ยวกับ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานต้นไม้ในพุทธประวัติ : สะเดาอินเดีย (Azadirachta indica A. Juss.)
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ต้นไม้ในพุทธประวัติ : สะเดาอินเดีย (Azadirachta indica A. Juss.)  (อ่าน 11653 ครั้ง)
samarn
Global Moderator
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 2
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 7
กระทู้: 215


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2008, 04:19:42 PM »

สะเดาอินเดีย (Azadirachta indica A. Juss.)

สะเดาอินเดีย หรือที่ชาวฮินดูเรียกว่า ?นิมะ? นั้น ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า ในพรรษาที่ 11 พระพุทธเจ้า ได้จำพรรษาภายใต้จิมมันทพฤกษ์ คือไม้สะเดา อันเป็นมุขพิมานของเพรุยักษ์ ใกล้นครเวรัญชา
สะเดาอินเดีย เป็นพันธุ์ไม้สกุล (Genus) Azadirachta ในวงศ์ไม้สะเดา (Meliaceae) เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบ และจะออกช่อดอกพร้อมใบอ่อนในเวลาเดียวกัน ลำต้น เปลา ตรง สีเทา แตกเป็นร่องไปตามยาวลำต้น แก่นแข็งสีแดง เรือนยอดเป็นพุ่มกลม ใบออกเป็นช่อ ช่อหนึ่ง ๆ มีใบย่อย 7 ? 9 คู่ ใบย่อยมักติดเยื้องกันเล็กน้อย ขอบใบหยัก ใบยอดมักม้วนลง ดอกสีขาว ออกเป็นช่อ ตามปลายกิ่งหรือเหนือรอยแผลใบ โคนเกสรเพศผู้มี 10 อัน โคนจะติดกันเป็นหลอดเล็ก ๆ ผลกลมรี ๆ ยาวประมาณ 1.5 ? 2 ซม. ผิวบาง ภายในมีเนื้อเยื่อฉ่ำน้ำ ผลแก่สีเหลือง

สะเดาของไทยใบจะโตกว่าสะเดาอินเดียเล็กน้อย ถือเป็นสายพันธุ์หนึ่งของสะเดาอินเดีย มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า ว่า Azadirachta indica  A. Juss. Var. siamensis Valeton   และมีชื่อเรียกต่าง ๆ กันไปตามท้องที่ เช่น กะเดา จะด้ง และสะเลียม เป็นต้น ทั้งสะเดาอินเดีย และสะเดาไทย ต่างก็ชอบขึ้นตามที่ค่อนข้างแห้งแล้งและเป็นพันธุ์ไม้เบิกนำได้ดีนอกจากจะปลูกเพื่อหวังใช้ประโยชน์จาก เนื้อไม้แล้ว ยังใช้ยอดและดอกอ่อนใช้เป็นอาหาร ราก และเปลือกยังใช้เป็นยาสมุนไพรได้ ทางคติอินเดียถือว่า ผู้ใดนอนใต้ต้นสะเดาแล้วโรคภัยไข้เจ็บจะหายไป เพราะสะเดาเวลาคายน้ำออกจะมีสารระเหยบางชนิด เที่เข้าใจว่ามีคุณสมบัติทางยาใช้รักษาโรค ถึงกับมีเรื่องเล่ากันว่า ภรรยาชาวอินเดียที่ไม่ยอมให้สามีออกไป ต่างบ้าน พยายามสั่งสามีว่า เมื่อจะไปให้ได้ก็ไม่ว่า แต่ในระหว่างเดินไปจะพักนอนที่ไหน ขอให้นอนใต้ต้นมะขาม เมื่อนึกจะกลับบ้านก็ขอให้นอนใต้ต้นสะเดา สามีก็เชื่อฟังภรรยาเมื่ออกจากบ้านก็นอนใต้ต้นมะขามเรื่อยไป ต้นมะขามกล่าวกันว่าเป็นต้นไม้ที่ทำให้เกิด ความเจ็บไข้ เมื่อนอนใต้โคนอยู่เรื่อยก็เกิดอาการไม่สบาย ไม่สามารถจะเดินทางต่อไปได้จึงคิดเดินทางกลับบ้าน เมื่อนึกถึงคำภรรยาสั่งไว้ว่าขากลับให้นอนใต้ต้นสะเดา จึงนอนใต้ต้นสะเดาเรื่อยมา ฤทธิ์ทางยาของไม้สะเดา ก็รักษาอาการไข้ของชายคนนั้นให้หายไปทีละน้อย ๆ และหายเด็ดขาดเมื่อกลับมาถึงบ้านพอดีนับว่า หญิงอินเดียมีกุโศลบายดีมาก 

การที่พระพุทธเจ้าจำพรรษาใต้ต้นสะเดาจะเกี่ยวข้องกับคติดังกล่าวหรือไม่คงไม่มีใครทราบ
แต่คตินี้ก็น่าจะให้ข้อคิดบางอย่างเพราะแพทย์แผนปัจจุบันพยายามสกัดสารพวกอัลคอลอยด์บางอย่างไป ใช้ผสมยา เช่น ทำยาธาตุ ยาแก้ท้องเสีย ฯลฯ ฉะนั้น เวลากลางคืนสะเดาจะคายน้ำรวมทั้งคาร์บอนไดออกไซด์ ์ออกมาย่อมจะมีสารระเหยพวกนี้ออกมาด้วย เมื่อสูดเข้าไปเรื่อย ๆ ก็อาจเป็นการบริโภคได้ทางหนึ่ง มะขามมักจะอยู่ตามโคกและตามโคกมักจะมีสัตว์พวกงูพิษซุ่ม คนนอนก็จะต้องคอยระมัดระวัง จะไม่เป็นอันหลับอันนอน ก็ย่อมจะเพลียไม่มีแรงเดินทางต่อ และพาลจะเจ็บป่วยไปด้วย แต่สะเดาชอบขึ้นตาม ที่ราบโล่งบรรดาสัตว์ร้าย เช่น งูไม่ชอบอาศัย คนนอนก็นอนสบายทำให้มีกำลังแข็งแรง คนเราถ้านอนได้เต็มที่ก็สามารถสร้างภูมิต่อสู้กับโรคภัยได้เช่นกันก็เป็นได้
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2008, 04:30:28 PM โดย samarn » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: