น้ำพระพุทธมนต์ – หลั่งน้ำทักษิโณทก **************************************************************
อายสฺมา อานนฺโท ปริตฺตตฺถาย ภาสมาโน ภควโต ปตฺเตน
อุทกมาทาย สพฺพํ นครํ อพฺภุกฺกิรนฺโต อนุวิจริ ฯ
แปลว่า: ท่านพระอานนท์ผู้มีอายุ ผู้สวดอยู่ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันรักษา
ถือเอาแล้วซึ่งน้ำด้วยบาตรของพระผู้มีพระภาค ประพรมอยู่ทั่วพระนคร เที่ยวไปแล้วโดยลำดับ
******************************************
ปุน ราชา สุวณฺณภิงฺคารํ คเหตฺวา อิโต ปฏฺฐาย มม รชฺชนฺติ อุทเกน อพฺภุกฺกิริตฺวา นิวตฺตติ ฯ
แปลว่า: พระราชา ถือเอาแล้ว ซึ่งสุวรรณภิงคาร อีก ทรงประพรมแล้วด้วยน้ำว่า "ความเป็นพระราชา ของเรา ตั้งแล้ว แต่นี้" ย่อมเสด็จกลับ
******************************************เนื้อความจากในพระไตรปิฎก อรรถกถา
.. อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ รัตนสูตรในขุททกปาฐะ
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=7โดยย่อแล้ว
“ รัตนสูตร “ เป็นพระสูตรที่พระอานนทเถระเรียนจากพระพุทธองค์โดยตรงเพื่อใช้สวดขจัดปัดเป่าภัยพิบัติที่เกิดกับชาวกรุงเวสาลี
พระพุทธองค์ทรงแนะนำให้พระเถระน้อมเอาคุณของพระรัตนตรัยคือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ
ทำสัจกิริยาให้เกิดเป็นอานุภาพขจัดปัดเป่าภัยพิบัติทั้งหลายเนื้อความรัตนสูตรท่อนแรกเริ่มต้นด้วยการแนะนำให้เหล่าภูตทั้งหลายได้อนุโมทนาบุญกุศลที่หมู่มนุษย์อุทิศให้และเมื่ออนุโมทนาแล้วขอให้เกิดความเมตตาทำการรักษามนุษย์ทั้งหลาย
เนื้อความท่อนต่อมาเป็นการอ้างคุณพระรัตนตรัยเป็นสัจวาจาให้เกิดความสวัสดี
ส่วนท่อนสุดท้ายเป็นคำกล่าวของท้าวสักกะที่ผูกขึ้นเป็นคาถาพรรณนาคุณพระรัตนตรัยเป็นสัจวาจาให้เกิดความสวัสดี
ภายหลังรัตนสูตรได้กลายเป็นแบบอย่างในการทำน้ำพระพุทธมนต์สำหรับพระสงฆ์สาวกต่อมาจนถึงปัจจุบัน
ทุกครั้งที่มีการทำ
น้ำพระพุทธมนต์ จะต้องสวดรัตนสูตร
จุดประสงค์ของการสวดรัตนสูตร ก็เพื่อเป็นการขจัดภัยทั้ง ๓ ประการตามที่ปรากฏในพระสูตรคือ
ข้าวยากหมากแพง (ทุพภิกขภัย) ๑
ภูตผีปีศาจทำอันตราย (อมนุสภัย) ๑
โรคภัยไข้เจ็บ (โรคภัย) ๑ ให้อันตรธานไป
ด้วยอานุภาพแห่งรัตนสูตรนี้ แม้กรุงเวสาลีจะเกิดภัยพิบัติอย่างร้ายแรง ผู้คนอดอยากล้มตายเป็นจำนวนมาก
ซากศพถูกทอดทิ้งเกลื่อนนคร ภูตผีปีศาจทำอันตรายแก่หมู่มนุษย์โรคระบาดเกิดขึ้นแพร่กระจายไปทั่ว
ผู้คนล้มตายเหลือที่จะนับได้
เมื่อพระพุทธองค์ทรงรับสั่งให้พระอานนทเถระสวดรัตนสูตรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ภัยพิบัติร้ายแรงเช่นนี้ก็ยังระงับลงได้อย่างฉับพลันข้อมูลเพิ่มเติม
http://truth-buddhism.blogspot.com/2014/11/blog-post_0.html