มัชฌิมาปฏิปทา หรือ มรรค มีองค์ 8
มีอยู่ 3 ระดับ
คือ
*การเริ่มตั้งไข่ ที่ทาน+ศีล
**เมื่อ เริ่มเดินชำนาญขึ้น นั่น คือสมาธิ ระยะนี้ การที่จิตตั้งมั่นอยู่กับกาย เปรียบได้กับการ เข้าใกล้ ลูกน้องระดับทส.ของอวิชชา
(เรียกว่า สังขารขันธ์ หรือ อาการที่จิต คิดเป็นเรื่องกุศล หรืออกุศล) ขณะนี้ เป็นอาการของจิตที่ไม่มีทั้ง ความคิดทั้ง 2 แบบ(อืม..)
**ทีนี้เมื่อจิตรู้เท่าทัน ลักษณะที่เรียกว่า ไตรลักษณ์ (ของชั่วแว่บหนึ่งของท่าเดิน ท่าท้องพองยุบ ....หรือท่าใดท่าหนึ่งที่ร่างกายมีความ
เคลื่อนไหว อาจเป็นท่า พลิกมือ เคาะนิ้ว หรือถูตัว ) เรียกว่าเป็นวิปัสนา
นั่นคือที่สุดของทุกข์ (อริยมรรค -อริยผล คือทำมรรคได้สำเร็จจึงเกิดเป็นผลทันที)
ประกอบด้วย สิ่งที่เป็นจริงอันเป็นสากล 3 เรื่องที่เกิดต่อเนื่องกันอย่างรวดเร็ว ได้แก่
1.ความรู้ทุกข์ (กายใจเป็นไตรลักษณ์ -ได้แก่ทุกขังเมื่อกายและใจถูกความทกข์บีบ
ให้ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้_= อนิจจัง
และอาการทั้งทุกขัง+อนิจจังนั้น เรา ไม่สามารถควบคุมเขาได้ จึงไม่ใช่ของๆเรา เป็นเพียงเรื่องของธรรม****
ธรรมชาติ =อนัตตา
2.การละเหตุของทุกข์ หรือสมุทัย
3. ความดับทุกข์ หรือนิโรธ
----------------------
เกิดได้เมื่อ จิต รู้เท่าทัน สิ่งที่จิตมันหลอกตัวของมันเองมา อย่าง ยาว นาน ...เหลือเกิน
ว่า นี่ กายนี้ คือกายของเรา
และจิต(จิต+ความคิด)นี้ คือจิตของเรา
***
ถ้าหากว่า เป็น ของเรา แล้วทำไม เราจึง ควบคุมอะไรไม่ได้เลย ละ***
ทั้งร่างกาย+จิต ล้วนไม่เที่ยง ต้องเปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ ทุกข์ สุข เฉย มีโลภ-ไม่โลภ มีโกรธ -ไม่โกรธ มีหลง-ไม่หลง