เรามักเมาท์กัน
เรื่องความน่ากลัวตอนโลกแตก
และหลังไม่มีโลกอยู่
: แต่ไม่เมาท์กัน
เรื่องมหันตภัยแห่งบาปกรรม
ทึี่ร่วมกันพอกพูนเพิ่มขึ้นทุกวัน
• คนส่วนใหญ่ใช้เวลาในชีวิต
ครุ่นคิดถึงเรื่องน่าเจ็บใจ
มากกว่าเรื่องน่าสบายใจ
: แค่นี้ก็เพียงพอจะเป็นเหตุ
ให้ตายอย่างไม่สบายใจแล้ว
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
• ในความเป็นพุทธ
คุณจะรู้ว่าตัวเองเริ่มแน่พอ
เมื่อสูญคนรักโดยไม่เสียน้ำตา
และไม่มีความถือสาแม้ต้องคุยยาวกับศัตรู
• ใช้ชีวิตแบบชาวพุทธที่มีความเบิกบาน
คือวางแผนจะอยู่อย่างเจริญรุ่งเรืองไปอีกหลายสิบปี
แต่ก็เตรียมตายอย่างสบายใจในวันนี้
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
• โลกนี้แบ่งออกเป็นเขตพื้นที่ปลอดภัย กับเขตพื้นที่สุ่มเสี่ยง
และเป็นอย่างนี้มาทุกยุคทุกสมัย
ไม่มีสมัยใดที่โลกปูตลอดด้วยพื้นที่ปลอดภัยหรือสุ่มเสี่ยงอย่างเดียว
ต้องมีกระจายเขตดีเขตร้ายไว้ให้บริการส่ำสัตว์
ผู้มีบุญมีบาปอย่างทั่วหน้าอยู่เสมอ
ฉะนั้น
ขอให้ลืมเรื่องภัยล้างโลกแบบกวาดทีเดียวหายเรียบไปได้
วันหนึ่งโลกอาจถึงกาลแตกดับจริง
แต่ป่านนั้นต้องไม่มีสัตว์บุญมาก
อย่างมนุษย์หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว
• โลกยังไม่แตกวันนี้
แต่ก็อย่าประมาทเลยครับ
เพราะเราอาจยืน เดิน นั่ง นอนอยู่ในเขตประหาร
และเราก็ไม่อาจทราบเสียด้วยว่า
ถึงเวลาของเราหรือยัง
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
• ขอให้คำนึงถึงการเตรียมเสบียง
ไว้เพื่อความไม่ประมาทแหละดีที่สุด
: เราจะได้ไม่ต้องกลัว
ไม่ต้องถามหาคำทำนายว่า
ที่กำลังหายใจได้
กำลังรู้สึกและนึกคิดได้เหมือนอย่างนี้
วาระสุดท้ายจะต้องตายเดี่ยวหรือตายหมู่
ตายดีหรือตายทรมาน
ตายในขณะที่จิตเป็นกุศลหรืออกุศล
: เพราะธรรมดาผู้สั่งสมบุญ
ตุนเสบียงไว้มากๆ
ย่อมอุ่นใจอยู่เสมอว่ากรรมขาวทั้งปวง
จะตามไปช่วยอุดหนุนค้ำจุน
มิให้หลงตายตกร่วงลงต่ำอย่างแน่นอน
ดั ง ต ฤ ณ
►
http://www.facebook.com/dungtrin_____________________
TUNYAR : Admin fanpage
►
http://www.facebook.com/DungtrinFanClubวันที่ชีวิต "ไม่ขาดทุน"
คือ วันที่ได้ทำบุญ และให้อภัย
วันที่ชีวิต "ได้กำไร"
คือ วันที่เราตั้งใจ ทำความดี