KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ต้องถอดจิตหลุดพ้นของท่านออกจากขันธ์ 5 ไม่งั้นนิพพานไม่ได้
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ต้องถอดจิตหลุดพ้นของท่านออกจากขันธ์ 5 ไม่งั้นนิพพานไม่ได้  (อ่าน 11224 ครั้ง)
phonsakw
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 1
**

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 2
กระทู้: 94


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2012, 03:15:42 PM »

คุณไทยเพียวครับ


มีเพียงผู้เดียวที่หลีกหนีความตายได้ คือ ผู้เป็นพระพุทธเจ้าครับ  เพราะมีหลักอยู่ว่า

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์  ย่อมต้องถอดจิตหลุดพ้นของท่านออกจากขันธ์ 5 เอง   เพราะบุญบารมีท่านสูงสุด ใครจะฆ่าหรือทำลายขันธ์ 5 ของท่านก็ไม่ได้
   
   หลักฐาน 1:
   
   "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลจะปลงชีวิตตถาคต ด้วยความพยายามของผู้อื่นนั่น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส เพราะพระตถาคตทั้งหลายย่อมไม่ปรินิพพานด้วย ความพยายามของผู้อื่น" (พระไตรปิฎก เล่ม 7 พระวินัยปิฎก จุลวรรค ภาค 2)
   
   
   หลักฐาน 2: 
   
   “อย่าเลยอานนท์ บารมีเราได้สร้างมาดีแล้ว ไม่มีใครสามารถปลงชีวิตของตถาคตได้ ไม่ว่าสัตว์ดิรัจฉานหรือมนุษย์หรือเทวดามารพรหมใด ๆ
   
   
   หลักฐาน 3: 
   
   จุนทะ! สูกรมัททวะ ที่เหลือนี้ท่านจงฝังเสียในบ่อ  เราไม่มองเห็นใครในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก หมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ ที่บริโภคแล้ว จักให้ย่อยได้, นอกจากตถาคต”  = มีแต่ตถาคตเท่านั้น ที่พิษอะไรก็ทำอะไรท่านไม่ได้
   
   ถามว่า
   
   1.   เมื่อพระพุทธเจ้าทุกพระองค์  ไม่สามารถตายได้ด้วยการกระทำของผู้อื่น  และพระตถาคตทั้งหลายย่อมตายด้วยอะไรล่ะครับถึงจะปรินิพพานได้
   
   ......ตถาคตทั้งหลายย่อมฆ่า หรือทำลายร่างกายของตัวตายเองใช่หรือเปล่า? คือ ถอดจิตหลุดพ้นของท่านออกจากขันธ์ 5 เอง
   
   2.   ใครหรืออะไรจะฆ่าโคตมะพระพุทธเจ้าย่อมไม่ได้  สูกรมัททวะ ซึ่งเป็นอาหารพิษแก่มนุษย์ และแม่เหล่า เทพ พรหม กินเข้าไปแล้ว เสร็จแน่(ไม่ย่อย)   นอกจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กินแล้ว(ย่อยได้) และไม่เป็นพิษกับพระองค์ด้วย 
   
  นอกจากนี้  พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า หากพระองค์ประสงค์จะอยู่ต่อพระองค์สามารถเจริญอิทธิบาท4และจะมีชีวิตดำรงค์อยู่ต่อไปอีกได้ตลอดกัป
   
   อ่านคำยืนยันของพระพุทธองค์นะครับ
   
   
   ดูก่อน...อานนท์ อิทธิบาท ๔ ตถาคตได้เจริญแล้ว ได้ทำให้มากแล้ว   ได้ทำให้เป็นยานแล้วได้ทำให้เป็นที่ตั้งอาศัยแล้ว ตั้งมั่นแล้ว สั่งสมแล้ว ปรารภดีแล้ว,
   
   ดูก่อน...อานนท์ ตถาคตนั้น เมื่อหวังอยู่ ก็จะพึงดำรงอยู่ได้ตลอดกัป
   
   หรือตลอดส่วนที่เหลือแห่งกัป.
....ดังนี้....
   
   
   สรุป
   
   
   ด้วยท่อนสุดท้าย "อานนท์ ตถาคตนั้น เมื่อหวังอยู่ ก็จะพึงดำรงอยู่ได้ตลอดกัป"
   
   
   นี่ก็คือพระพุทธองค์ไม่ได้หวังอยู่ต่อ  เพราะพระพุทธองค์ท่านไปรับบิณฑบาทของพยามารไว้แล้วว่าจะปรินิพพาน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: