KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับธรรมมะกับมนุษย์ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน ธรรมมะจากพระสงฆ์ สุปฏิปันโน เป็นข้อคิด และแนวทาง เพื่อเป็นแรงใจในการปฏิบัติภาวนาธรรมะที่ถ่ายทอด โดย หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
หน้า: [1]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะที่ถ่ายทอด โดย หลวงปู่ชอบ ฐานสโม  (อ่าน 49729 ครั้ง)
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2009, 08:39:44 PM »




หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

"หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ เลย" พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งทวยเทพ
หลวง ปู่ชอบ ฐานสโม เป็นพระมหาเถระศิษย์ชั้นผู้ใหญ่ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ซึ่งทรงคุณธรรมสูงสุดถึงระดับ"พระอรหันต์" ดังที่หลวงปู่แหวนเคยปรารภเมื่อครั้งที่ได้ข่าวว่าหลวงปู่ชอบจะมาเชียงใหม่
ว่า "ท่านชอบจะมา"นิพพาน"ที่เชียงใหม่หรือ???!!" อีกทั้งหลวงปู่ชอบยังมี "ตาดี"และ"จิตดี" เป็นพิเศษ
จนแม้พระอาจารย์มั่นยังไว้วางใจให้หลวงปู่ชอบเคย"รับแขกเทพ"(ต้อนรับ,เทศน์ ธรรมให้เทวดาฟัง)และ
"จับพระ" (ใช้เจโตปริยญาณตรวจสอบความคิดของพระเณรที่อาจ จะเผลอทำ,พูด,คิด ออกนอกลู่นอกทางไปบ้างให้กลับคืนดี)
อย่างไม่มีผิดพลาด เป็นที่เลื่องลือในศิษย์กรรมฐานแห่งท่านพระอาจารย์มั่นโดยทั่วไปเป็นที่ยิ่ง

อีกทั้งหลวงปู่ชอบ ยังมี"เสน่ห์"ในองค์ท่านอย่างเหลือล้น จนเทพเทวดานาคครุฑคนธรรพ์ปรไมไอศวร ฯลฯ
ต่างล้วนมีความรักใคร่ศรัทธาในองค์หลวงปู่ชอบเป็นพิเศษ จนถึงขั้นมาคอยดูแล
หลวงปู่ชอบในหลายๆครั้งจนรอดพ้นภาวะคับขันได้อย่างน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
ถึงขนาดที่แม้หลวงปู่เทศก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง ยังต้องออกปากปรารภเลยทีเดียวว่า
"เทวดารักท่านชอบมาก ว่าไปแล้ว เทวดาจะรักท่านชอบมากกว่าท่านพระอาจารย์มั่นเสียอีกนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 24, 2012, 04:49:36 PM โดย golfreeze » บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
sirisuk
สมาชิกใหม่
*

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 0
กระทู้: 12



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2012, 06:31:57 AM »

ขอขอบคุณครับ..............
บันทึกการเข้า
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2012, 04:49:20 PM »



" ถ้าใจมีธรรมเป็นที่อยู่แล้ว จะอยู่ที่ไหนก็อยูได้ ไม่มีความเดือดร้อน
แต่ถ้าใจนั้นไม่มีธรรมเป็นเครื่องอยู่แล้ว ต่อให้นั่งนอนอยู่ในปราสาททองก็ไม่มีความสุข
เพราะไฟกิเลสมันเผาผลาญหัวใจให้ได้รับความเดือดร้อนอยู่มิเว้นวาย "

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2012, 04:52:40 PM »



รูปนี้ถ่ายขณะที่หลวงปู่ชอบท่านแสดงธรรมให้ลูกศิษย์ฟัง
เนื่องในวันวิสาขบูชา ปี 2536 ใจความแห่งเทศนาว่า

" อยากพ้นทุกข์ก็ให้ทำเอา พระพุทธเจ้าพระองค์ใดก็ประทานให้เราไม่ได้
ถ้าอยากได้ก็ให้ลงมือทำด้วยตนเอง ความเกียจคร้านบ่เคยทำให้ใครเป็นอริยะ
มีแต่จะทำให้คนนั้นเป็นอะริแย่ คือแย่ลงไปเรื่อยๆหาความดีให้ตนเองไม่ได้ "



หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 04, 2013, 09:17:42 PM »

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม องค์ท่านเล่าประวัติตาผ้าขาวถ้ำนายม ผู้บรรลุธรรม " พระอานาคมี "

ตาผ้าขาวนายมท่านนี้มีชื่อว่า “ พ่อสง่า ” อายุหกสิบกว่าปี พ่อสง่าท่านเป็นคนบ้านนายม ตำบลนายม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ พ่อสง่ามีลูกสาวลูกชายทั้งหมดสี่คน พอภรรยาตาย พ่อสง่าอยากจะบวชเพื่ออุทิศบุญให้กับภรรยาคู่ชีวิตของท่าน แต่ลูกๆทุกคนไม่อยากให้พ่อบวชเพราะเป็นห่วง เกรงว่าพ่อจะลำบากเนื่องจากพ่อสง่ามีอายุมากแล้ว..

เมื่อลูกไม่ให้บวชพ่อสง่าจึงประพฤติพรหมจรรย์โดยการถือศีลแปดฝึกฝนอบรมสมาธิทุกวันอยู่ที่บ้าน พ่อสง่าจะอยู่ปฏิบัติสลับกันไปมาระหว่างบ้านกับวัด วันธรรมดาก็จะปฏิบัติอยู่ที่บ้านของตนเอง วันพระก็จะไปปฏิบัติอยู่ที่วัดในหมู่บ้าน..

พ่อสง่าท่านเป็นผู้ที่มีวาสนารู้ธรรมได้เร็วมาก ท่านปฏิบัติภาวนาอยู่ที่บ้านจนบรรลุธรรมเบื้องต้นเป็นพระโสดาบัน จากนั้นท่านเกิดความเบื่อหน่ายในการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว อยากออกไปปฏิบัติตามป่าเขาโดยเพียงลำพัง ท่านจึงบอกลูกหลานว่าจะไปอยู่ถือศีลภาวนาอยู่ที่ถ้ำนายม..

แรกๆเมื่อมาอยู่ที่ถ้ำนายมตาผ้าขาวสง่าท่านจะพักเพียงคืนสองคืนก็กลับมาที่บ้านครั้งหนึ่ง ต่อมาพอเข้าพรรษาท่านก็ขอลูกหลานมาจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำนายม เบื้องต้นลูกหลานก็คัดค้านเพราะเป็นห่วงพ่อ อยากให้พ่อจำพรรษาอยู่ที่วัดในหมู่บ้าน แต่ท่านไม่อยากจำพรรษาที่วัดในหมู่บ้านเพราะมีเหตุบางอย่างที่มันติดขัดกับธรรมอยู่ในใจของท่าน สุดท้ายลูกหลานก็ยอมให้พ่อไปถือศีลภาวนาจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำนายม..

ตาผ้าขาวสง่ามาจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำนายมได้ไม่ถึงเดือน ลูกหลานก็พากันมาอ้อนวอนรบเร้าให้ท่านกลับไปอยู่ที่บ้านเพราะเป็นห่วงพ่อ ตาผ้าขาวท่านจึงขอกับลูกหลานว่าออกพรรษาพ่อถึงจะกลับบ้าน พ่อขอจำศีลภาวนาอยู่ที่นี่ให้พ้นพรรษาตามที่ได้ตั้งสัจจะวาจาไว้ ลูกหลานก็จนใจจำยอม ลูกหลานจะพากันมาเยี่ยมนำเสบียงมาส่งให้ท่านทุกสามสี่วันครั้งหนึ่ง..

พอออกพรรษาตาผ้าขาวสง่าท่านก็ไม่ยอมกลับบ้าน ลูกหลานพากันมาอ้อนวอนให้กลับบ้านอย่างไรท่านก็ไม่ยอมกลับ เมื่อรบเร้าอ้อนวอนเท่าไหร่พ่อก็ไม่ยอมกลับบ้าน ลูกชายกับลูกเขยจึงพากันจับตาผ้าขาวมัดมือมัดเท้าแบกท่านกลับบ้าน..

หลวงปู่ชอบท่านเห็นเหตุการณ์นี้ องค์ท่านถึงกับสลดใจ ต่างคนต่างภูมิจึงไม่รู้ข้างในจิตใจกัน ที่ตาผ้าขาวท่านไม่อยากอยู่บ้านเพราะท่านไม่อยากให้ลูกหลานญาติพี่น้องของท่านเป็นกรรม ซึ่งบางครั้งเขาอาจเผลอสติประมาทพลาดพลั้งท่านตามประสากิเลสของใจตนบงการ ตาผ้าขาวสง่าบอกท่านไว้ว่า ลูกหลานของข้าน้อยจะพากันมาเอาตัวข้าน้อยกลับบ้าน ถ้าวันใดลูกหลานมาคุมตัวข้าน้อยกลับบ้าน อายุขัยของข้าน้อยก็จะสั้นลง เมื่อหลวงปู่ชอบท่านเห็นเหตุการณ์นี้ องค์ท่านถึงกับสลดใจ..

ตาผ้าขาวกลับไปอยู่บ้านได้สองสามวัน พอลูกหลานเผลอก็แอบหนีออกจากบ้านกลับมาที่ถ้ำนายมเพื่อมากราบลาองค์ท่านหลวงปู่ชอบเป็นครั้งสุดท้าย ตาผ้าขาวสง่ามากราบลาและบอกกับองค์ท่านว่า ชาตินี้ข้าน้อยบ่มีวาสนาที่จะได้บวชเหมือนกับอาจารย์ ข้าน้อยบ่ได้สร้างบารมีทางนี้มา จากนี้ไปบ่นานดอกอายุขัยของข้าน้อยก็จะสิ้นแล้ว ข้าน้อยจะตายด้วยโรคลมปัจจุบันเป็นเหตุให้ตนเองตกบ้านถูกไม้ค้ำเกวียนเสียบตาย..

ตาผ้าขาวเล่าถึงอดีตกรรมของท่านให้หลวงปู่ชอบฟังว่า เหตุที่ชาตินี้ตนเองไม่ได้บวชเพราะอดีตชาติครั้งหนึ่งท่านเป็นผู้ที่มีมิจฉาทิฐิ ตำหนิพระสงฆ์องค์เณรว่าเป็นคนเกียจคร้านไม่อยากทำงานจึงหนีไปบวช ลูกชายของตนเองในชาตินั้นมีศรัทธาอยากจะออกบวช ตนเองไม่อนุญาตห้ามลูกไว้ไม่ให้บวช กรรมนี้จึงส่งผลมาในชาติปัจจุบันเป็นเหตุให้ตนเองถูกขัดขวางไม่ให้บวช..

อีกชาติหนึ่งของตาผ้าขาว ท่านเคยเกิดเป็นนาย เพชฌฆาต มีหน้าที่จับนักโทษประหารโยนลงเหว กรรมนี้จะเป็นเหตุให้ตนเองตกจากที่สูงตายในชาติปัจจุบัน ตาผ้าขาวบอกวันเวลาที่ตนเองจะตายให้องค์ท่านหลวงปู่ชอบฟังทั้งหมด ตาผ้าขาวมาพักอยู่กับท่านที่ถ้ำนายมหนึ่งคืน พอพ้นอีกวันลูกหลานก็พากันมาตามให้ตาผ้าขาวสง่ากลับบ้าน ตาผ้าขาวสง่ากราบลาองค์ท่านหลวงปู่ชอบกลับบ้านพร้อมกับลูกหลาน นั่นคือครั้งสุดท้ายที่หลวงปู่ชอบท่านได้เห็นตาผ้าขาวสง่าตอนท่านมีชีวิต..

ตาผ้าขาวสง่าท่านกลับไปอยู่ที่บ้านได้ไม่นานนัก ท่านก็ตายตามวันเวลาที่ได้บอกกับองค์ท่านหลวงปู่ชอบไว้ไม่มีผิด วันที่ท่านตาผ้าขาวสง่าตายนั้น ท่านเดินจงกรมอยู่ที่ระเบียงชานบ้านของตัวเอง เวลาประมาณสิบเอ็ดโมงกว่าๆท่านเป็นลมหน้ามืดพลัดตกจากบ้านถูกไม้ค้ำเกวียนเสียบอกตาย วันเวลาการตายตรงกับที่ท่านได้บอกกับหลวงปู่ชอบไว้ว่า ท่านจะตายตอนพระเณรฉันเพล..

หลวงปู่ชอบท่านบอกว่า ผู้ที่สำเร็จคุณธรรมเป็นพระอริยะบุคคลไม่ว่าชั้นใดก็ตาม ท่านจะอยู่ร่วมครองเรือนกับฆราวาสทั่วไปลำบาก การอยู่ครองเรือนย่อมจะมีกระทบกระทั่งกันทางอารมณ์ ผู้ที่มีภูมิธรรมท่านจะรู้จักละปลงปล่อยวางเป็น แต่ปุถุชนคนธรรมดาจะละวางไม่เป็น เมื่อมีเหตุกระทบกันจะทำให้เป็นบาปกรรมได้..

ด้วยวิสัยของท่านผู้มีภูมิธรรม ท่านจะพิจารณาถึงอนาคตข้างหน้าของตนเอง หากท่านมีวาสนาทางเนกขัมมะบารมีท่านก็จะออกบวชเพื่ออยู่โปรดสัตว์โลก หากท่านพิจารณาเห็นตนเองไม่มีวาสนาบารมีในทางนี้ ท่านก็จะพิจารณาปลงสังขารละขันธ์ไปในที่สุด..

จากเพจหลวงปู่ชอบ ฐานสโม
กราบขอบพระคุณค่ะ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2013, 07:24:49 PM »



หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ไปเยี่ยมและสนทนาธรรมกับ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
ที่ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ ในภาพหลวงปู่ชอบท่านจับมือหลวงตามหาบัว แล้วท่านพูดว่า

" มหาบัว ผมฝากท่านดูแลหมู่คณะและแผ่นดินแน่เด้อ มีท่านเท่านั้นที่ทำได้ คนอื่นนั้นเรามองไม่เห็นว่าใครจะทำได้ "

จากนั้นอีกสองเดือนต่อมาหลวงปู่ชอบท่านก็มรณภาพ และอีกไม่กี่ปีต่อมา หลวงตามหาบัวท่านก็กู้ชาติกู้แผ่นดินในนาม " โครงการผ้าป่าช่วยชาติ " ได้ทองคำเข้าคลังหลวงเพื่อค้ำฐานะของประเทศมากถึง ๑๒ ตัน


จากเพจหลวงปู่ชอบ ฐานสโมค่ะ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2013, 07:45:26 AM »

หลวงปู่ชอบ กับตาผ้าขาวสง่าผู้บรรลุอนาคามี


หลวงปู่ชอบท่านเดินทางจากถ้ำน้ำบังไปที่ถ้ำนายม ตำบลถ้ำนายม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์
ท่านใช้เวลาในการเดินทางเกือบครึ่งวัน
 เพราะสมัยนั้นเส้นทางระหว่างบ้านถ้ำน้ำบังกับบ้านถ้ำนายมไม่มีถนนหนทางให้เดินอย่างสะดวกสบายเหมือนกับในปัจจุบันนี้
ท่านอาศัยเดินตามทางล้อเกวียนกว่าจะมาถึงถ้ำนายมได้ก็เป็นเวลาประมาณบ่ายสามโมง..

ตาผ้าขาวสง่าเห็นท่านเดินเข้ามาเขาออกมาต้อนรับท่าน นิมนต์ท่านนั่งพักเพื่อฉันน้ำคลายความเหนื่อยเมื่อยล้า
ตาผ้าขาวสง่า กราบท่านเพื่อแสดงความเคารพด้วยไมตรีจิต เขาบอกกับท่านว่า
 ข้าน้อยต้มน้ำร้อนน้ำยาไว้รอท่านอาจารย์ตั้งแต่ตอนเที่ยงจนน้ำเดือดไปหลายเที่ยวแล้ว
ข้าน้อยก็รอดูอยู่ว่าเมื่อไหร่ท่านอาจารย์จะเดินทางมาถึงซักที..

หลวงปู่ชอบท่านแปลกใจที่ตาผ้าขาว เขารู้ได้อย่างไรว่าท่านจะเดินทางมาถ้ำนายม
ทั้งๆที่ท่านเองก็ไม่ได้บอกใครให้มาแจ้งเรื่องนี้กับตาผ้าขาว ท่านถามตาผ้าขาวว่า
โยมรู้ได้อย่างไรว่าอาตมาจะมาที่นี่ ตาผ้าขาวบอกกับท่านว่า
ข้าน้อยรู้จากภูมิเทวดาที่ถ้ำน้ำบังเขามาบอกข้าน้อยว่าจะมีพระกรรมฐานท่านจะมาอยู่ปฏิบัติอยู่ที่นี่..

หลวงปู่ท่านว่า ตาผ้าขาวนายมท่านนี้เป็นผู้ที่มีความรู้ภายนอกภายในพิสดารมาก
เขาจะรู้เรื่องราวภายนอกที่เป็นสิ่งลี้ลับ และเรื่องราวภายในที่เป็นความรู้ในธรรมละเอียดลึกซึ้งมาก
จนท่านยอมรับในภูมิความรู้ของตาผ้าขาวสง่า นายมท่านนี้ ตาผ้าขาวบอกท่านว่านี่ก็จวนใกล้จะเข้าพรรษาแล้ว
ข้าน้อยขอนิมนต์ท่านอาจารย์ให้อยู่จำพรรษาด้วยกันที่นี่
ข้าน้อยขอปวารณาเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหารการขบฉันของท่านอาจารย์เองทั้งหมด
ขอท่านอาจารย์อย่าเป็นกังวลในเรื่องปัจจัยสี่ข้าน้อยจะเป็นผู้จัดการเอง..

หลวงปู่ท่านตั้งใจที่จะมาดูสถานที่ถ้ำนายมว่าเหมาะแก่การจำพรรษาหรือไม่
เบื้องต้นท่านจึงบอกกับตาผ้าขาวว่าอาตมาขอพิจารณาดูก่อน
แล้วจะแจ้งให้ผ้าขาวรู้ดอกว่าอาตมาจะจำพรรษาอยู่ที่นี่ด้วยหรือไม่
อาตมาขอพักอยู่ที่นี่ซักระยะหนึ่งก่อน ตาผ้าขาวจึงนิมนต์ให้ท่านไปพักอยู่ที่กระท่อมหน้าถ้ำซึ่งเป็นกระท่อมของเขาเอง
ส่วนตาผ้าขาวเขาเข้าไปพักอยู่ภายในถ้ำนายม..

หลังจากหลวงปู่ชอบท่านพักอยู่ที่ถ้ำนายมได้ประมาณสามสี่วัน
ท่านเห็นว่าสถานที่แห่งนี้สงบเงียบเหมาะสมแก่การจำพรรษา ท่านจึงบอกกับตาผ้าขาวว่าจะอยู่จำพรรษาที่นี่
ตาผ้าขาวจึงเข้าไปที่หมู่บ้านเพื่อไปบอกลูกชายและลูกเขยของเขาให้พากันมาทำที่พักให้กับท่าน
ลูกชายและลูกเขยของตาผ้าขาวสง่า ทำที่พักให้ท่านอยู่ห่างจากปากถ้ำนายมประมาณร้อยเมตร
และทำทางจงกรมไว้ให้ท่านสองเส้น เส้นหนึ่งทำไว้อยู่ข้างกุฏิที่พักของท่าน
 อีกเส้นหนึ่งทำไว้ที่ภายในถ้ำเวลาฝนตกท่านจะได้มีที่จงกรมเพื่อบังฟ้าบังฝน..

ท่านว่าถ้ำนายมเป็นถ้ำใหญ่และลึกมาก มีซอกซอยช่องหินเงื้อมถ้ำสลับซับซ้อนไปมา
 ถ้ำนายมเป็นถ้ำที่มีความอาถรรพ์ลี้ลับอีกถ้ำหนึ่งที่ท่านเคยได้ไปพักมา
 ภายในถ้ำมีถ้วยโถโอชามของโบราณและพระพุทธรูปอยู่ภายในถ้ำ ท่านถามตาผ้าขาวสง่าว่า
ของใช้ภายในถ้ำนี้เป็นของใคร เขาบอกท่านว่าเกิดมาก็เห็นของเหล่านี้มีอยู่ในถ้ำแล้ว
คนที่นี่เขาไม่กล้าที่จะเอาของภายในถ้ำไปเป็นสมบัติส่วนตัว
เพราะเขากลัวสิ่งลี้ลับจะตามไปทวงเอาของคืน เขากลัวจะได้รับอันตรายจากอำนาจมืดที่มองไม่เห็น..

ที่ถ้ำนายมท่านว่าในแต่ละวันจะมีเทวดามาหาตาผ้าขาวสง่าอยู่มิได้ขาด เทวดาบางกลุ่มเขาก็มาขอฟังธรรมกับตาผ้าขาว
เทวดาบางกลุ่มก็มาอนุโมทนายินดีในการปฏิบัติของตาผ้าขาว เพราะว่าตาผ้าขาวสง่าผู้นี้ท่านมีภูมิธรรมชั้นสูงเป็น
“ พระอนาคามี ” เป็นผู้หลุดพ้นจากบ่วงกามคุณแล้ว..

ท่านเองในตอนนั้นก็นึกละอายตนเอง ท่านว่าท่านเป็นพระห่มผ้าเหลืองแท้ๆ
แต่การปฏิบัติทางในของท่านตอนนั้นยังได้ครึ่งหนึ่งของตาผ้าขาวท่านนี้เลย
ท่านจึงมีความมุมานะทำความเพียรอย่างหนักเพื่อหวังธรรมอันหลุดพ้น..

หลวงปู่ชอบ “ จะบ่ให้เรามีความมุมานะได้ยังไง ตาผ้าขาวเขาเป็นถึงพระอนาคามีแต่มาทำอาหารให้เราฉันเกือบจะทั้งพรรษา
มันเกิดละอายใจตนเองกลัวจะเป็นบาปกรรม เราจึงเร่งทำความเพียรเอาแบบแข่นๆ
 ทำความเพียรอย่างหนักจนลืมวันลืมคืน ผลจากการที่ตนเองเร่งทำความเพียรอย่างหนักนั้น
จิตของเราได้ตั้งมั่นต่อพระนิพพานเพียงอย่างเดียวในชาตินี้ จิดเป็นภูมิอริยะเบื้องต้น(พระโสดาบัน)ตอนจำพรรษาอยู่ถ้ำนายมนี่แหละ ”..

“ ตาผ้าขาวสง่าผู้นี้เขามีจริตคล้ายกันกับเรา เป็นพวกจริตโลดโผนชอบออกรู้เหมือนกัน
บางครั้งเรายังต้องให้เขาอธิบายธรรมภาคปฏิบัติให้ฟัง ขั้นตอนแต่ละขั้นนั้นผ่านมาอย่างไร
ตาผ้าเขาจะเล่าให้เราฟังหมดทั้งเรื่องภายนอกเรื่องภายใน
ตาผ้าขาวคนนี้ภาวนาเก่งมากจนสามารถทำลายกามคุณในจิตใจของตนเองลงได้ในขณะที่ตนเองยังเป็นฆราวาสอยู่
เกิดมาเราก็พึ่งเห็นตาผ้าขาวนายมคนนี่แหละที่เป็นฆราวาสภาวนาจนบรรลุธรรมเป็นพระอนาคามี
ของพวกนี้มันบ่แม่นธรรมดา ของพวกนี้มันบ่แม่นเรื่องที่ทำกันได้ง่ายๆ ผู้เกิดมาเป็นยอดคนพ้นโลกแล้วเท่านั้นถึงจะทำได้ "..

" กามราคะนี้เป็นกิเลสที่หยาบหนาที่สุด และเป็นกิเลสตัวที่จะถอดถอนได้ยากที่สุด
ถ้านักปฏิบัติผู้ใดสามารถละกิเลสกามคุณออกไปจากจิตใจของตนได้แล้ว
ธรรมธาตุแท้ก็จะปรากฏให้ได้เห็นอยู่ต่อหน้า คือจั่งว่าสิเอามือคว้าได้เลย ”


ชีวประวัติ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม
วัดป่าโคกมน บ.โคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย
เขียนบันทึกโดย..ครูบากล้วย ธีรภัทโท
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 07:40:17 PM »



ท่านอาจารย์ชอบ ฐานสโมเพิ่นเล่าให้ฟังว่า บวชได้ ๒๐ พรรษาปีนั้น
อยู่จำพรรษาบ้านลิเตอะข้างดอยเชียงตองมีลูกสาวคนร่ำรวยมีหน้ามีตาในหมู่บ้านตำบลแถบนั้นยกย่องให้เป็นหัวหน้าผู้นำ

กำลังเป็นสาวอายุ ๑๙ย่าง ๒๐ ปี รูปร่างสวยงาม มาขอให้ลาสิกขาออกไปอยู่ด้วยกันเป็นสามีภรรยากัน
ก็ว่า“ อายุมากแล้ว ๔๐ กว่าปีแล้ว ออกไปจะทำอะไรได้ ”

เขาว่า “ ไม่ต้องทำอะไรมากหรอกดูแลการค้าขายกับพวกอังกฤษ ”
“ ค้าขายไม่เป็น ”
“ ฝึกหัดเอานิดหน่อยก็เป็นแล้ว ”
“ พูดจาฝรั่งไม่เป็น ”

“ ไม่เป็นไร เขามีล่ามชาวพม่าอยู่เงินกำไรทุนรอนไม่ต้องกังวลมีอยู่มากแล้ว ค้าขายสะสมอีกนิดหน่อยก็อยู่ได้แล้ว อย่างว่าไม่ได้ก็ขอให้มีลูกหญิงก็ได้มีลูกชายก็ได้สักคน แล้วจึงจะกลับ
เข้าบวชก็ตามใจ ”

ตกลงกันอยู่นานหลายวันหลายครั้งมีญาติผู้ใหญ่ของเขามาพูดจาช่วยสุดท้ายเขามาถามว่า

“ ลืมกันแล้วหรือ เคยทำบุญให้ทานบำเพ็ญมาด้วยกันลืมกันแล้วหรือ มาเสาะหาเห็นแล้วจะจากหนีไปอีกอย่างนั้นหรือ ”

“ ไม่ลืมหรอก ถ้าลืมก็ไม่มาที่มานี่ก็เพื่อจะมาบอกมาสอน
ให้รู้จักทานรู้จักศีล รู้จักภาวนาหาทางพ้นทุกข์ไปเสีย ”

อยู่จำพรรษาโปรดอีสาวน้อยคนนั้น ๒ปี จึงได้หนีมาเมืองไทย ผู้ข้าฯ ก็ถามว่า
“ ท่านอาจารย์อีน้อยนั้นเป็นเมียมาได้กี่ชาติแล้วครับ ”
“ นับแสนก็ยังไม่พอนับ ”
“ เป็นล้าน ”
“ อื่อ ”
“ เป็นคู่บำเพ็ญหรือครับ ”
“ อื่อ ”

“ เขาได้ธรรมะไหมครับ ”
“ โสดาบัน ”
“ ท่านอาจารย์แก้ไขปลดให้ ”
“ อื่อ ”
“ สบายไหมครับผม ”
“ ปลดห่วงปลดอาลัยได้ ”
“ ท่านอาจารย์คิดฮอดไม่ครับ ”
“ หายแล้ว ”

คัดจากธรรมประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
เดินทางเสาะหาครู สู่เมืองเหนือล้านนา
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 12, 2014, 10:34:28 PM »



บันทึกที่ วัดป่าโนนหวาย ต.บ้านม่วง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ๒๑ มิถุนายน ๒๕๓๓ ครูบากล้วย พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท..

เรื่องสมถะมักน้อยสันโดษนี้ " หลวงปู่ชอบ ฐานสโม " ท่านจะเป็นผู้ที่มีความโดดเด่นมากในวงพระกรรมฐานลูกศิษย์สาย " หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต " .....

กุฏิของหลวงปู่ชอบที่อยู่วัดป่าโคกมน หรือวัดป่าสัมมานุสรณ์ ลูกศิษย์สร้างให้องค์ท่านแต่ละหลังใหญ่โตมาก หลวงปู่ท่านจะอยู่พักฉลองศรัทธาให้เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ส่วนมากกุฏิของหลวงปู่จะใช้เป็นที่เก็บของให้องค์ท่าน ท่านจะให้ครูบาอาจารย์หรือพระผู้เฒ่าไปอยู่เพื่อรักษากุฏิแทน ส่วนองค์ท่านจะอยู่ในที่พักกะลอมซอมซ่อ เช่น ห้องพักโรงเก็บรถ ศาลาเมรุเผาผี หรือไม่ก็กระต๊อบหลุมฝังศพที่อยู่หลังกุฏิที่พักของเรา..

ท่านบอก " พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวกทั้งหลายท่านตรัสรู้ธรรมในสถานที่กันดารความสุขทางกาย เราก็รู้เห็นธรรมในสถานที่กันดารสุขของกิเลส เราไม่เคยลืมในบุญคุณสถานที่เหล่านี้ เราอยู่เพื่อเตือนใจตนเอง เราอยู่เพื่อเป็นแบบอย่างให้พระเณรลูกหลานสืบนิสัย "..

เรื่องนิสัยสมถะมักน้อยสันโดษนี้ องค์ท่านจะสอนพระเณรลูกหลานทุกองค์ ใครมีนิสัยสืบต่อ องค์ท่านก็สอนสานต่อให้ องค์ไหนไม่มีนิสัย องค์ท่านก็จะตัดขาดนิสัยกับพระเณรรูปนั้นๆโดยไม่อบรมว่ากล่าวธรรมอะไรให้ฟัง หรือพระเณรบางองค์หลวงปู่ท่านก็จะไล่ออกจากสำนักไปก็มี..

คนข้างนอกส่วนมากเขาไม่ค่อยรู้ เขาจะมองกันว่าหลวงปู่ชอบท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ท่านต้องมีความเป็นอยู่อย่างสะดวกสบายในเรื่องเครื่องอำนวยความสะดวก เพราะคนส่วนมากเวลามากราบองค์ท่านเขาก็จะเห็นองค์ท่านนั่งอยู่ในรถเข็น และสถานที่รับแขกที่เป็นกิจลักษณะดูดี แต่คนส่วนมากเขาไม่ค่อยได้เห็นความเป็นอยู่ที่แท้จริงขององค์ท่านเหมือนพวกเราที่เป็นลูกศิษย์อุปัฏฐาก..

องค์ท่านหลวงปู่ชอบพาอยู่อย่างไร พวกเราพระเณรอุปัฏฐากองค์ท่านก็อยู่กันได้โดยไม่มีใครบ่นว่าทุกข์ มีแต่ความสุขทางใจยินดีที่จะอยู่ปรนนิบัติรักษาองค์ท่าน ความสบายทางกายหาได้ง่ายในโลกนี้ ความสบายทางใจนี่สิเป็นสิ่งที่หาได้ยากบนโลกแห่งความวุ่นวาย พ่อแม่ครูอาจารย์ชอบท่านถึงบอกเรา " อยู่กับร้อนให้เป็น อยู่กับเย็นให้ได้ ถึงจะได้ชื่อว่า เป็นผู้รู้ "..

(ภาพถ่ายที่กระท่อมหลุมศพวัดป่าโคกมน ๗ พฤษภาคม ๒๕๓๒)
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2014, 07:49:33 PM »

ถ้า"ใจมีธรรม" เป็นที่อยู่แล้ว จะอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้
ไม่มีความเดือดร้อน
แต่ ถ้าใจนั้น "ไม่มีธรรม" เป็นเครื่องอยู่แล้ว
ต่อให้นั่งนอน อยู่ในปราสาททอง ก็ไม่มีความสุข เพราะ "ไฟกิเลส"
มันเผาผลาญหัวใจ ให้ได้รับความเดือดร้อน อยู่มิเว้น วาย

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
golfreeze
ขอนอบน้อมในธรรมของ องค์พระพุทธเจ้า
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 67
กระทู้: 3605


golfreeze@packetlove.com
ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 08, 2015, 06:05:54 PM »

วันนี้วันที่ ๘ มกราคมเป็นวันคล้ายวันมรณภาพครบรอบ ๒๐ ปี ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ชอบ ฐานสโม “พระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา” แห่งวัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย หลวงปู่ชอบ ท่านมีนิสัยชอบโดดเดี่ยวเที่ยวไปอยู่ในป่ากว้าง ทำในสิ่งที่บุคคลอื่นทำได้ยาก รักสันโดษ ไม่ชอบเกี่ยวข้องกับหมู่ชนพระเณร องอาจเด็ดเดี่ยว อดทนเป็นเลิศ ไม่กลัวความทุกข์ยากลำบาก เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย กล้าได้กล้าเสียในการปราบกิเลส ท่านทำสมาธิทั้งกลางวันกลางคืน บางคราวพายุฝนกระหน่ำ น้ำป่าไหล ท่านต้องนั่งกอดบาตรจนสว่าง อีกครั้งระหว่างเดินธุดงค์กลางป่ามีเสือตัวใหญ่ ๒ ตัวกระโดดล้อมหน้าล้อมหลังท่านเอาไว้ หลวงปู่ชอบท่านเร่งสติสมาธิ แผ่เมตตากำหนดจิตเข้าข้างใน สมาธิลึกเข้าไปจนถึงฐานของจิต ปล่อยวางสิ่งทั้งปวง เมื่อถอนจิตออกมาปรากฎว่าเสือสองตัวได้หายไปแล้ว หลวงปู่ชอบ ได้พบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ ป่าบ้านสามผง จ.นครพนม หลวงปู่มั่น ได้ให้โอวาทสั้น ๆ ว่า..."ท่านเคยภาวนามาอย่างไร ก็ให้ทำต่อไปเช่นนั้น อย่าได้หยุด ธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงแสดงไว้นั้น มันก็อยู่ที่ใจเรานี่แหละ ถ้าอยากรู้อยากเห็นธรรมเหล่านั้น ก็ให้ค้นหาเอาที่ใจของท่านเอง"

หลวงปู่ชอบ ท่านถือกำเนิด ตรงกับวันพุธที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๔๔ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีฉลู ณ บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย ท่านอุปสมบท เมื่ออายุ ๒๓ ปี ตรงกับวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ.๒๔๖๗ ณ วัดสร่างโศก อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันคือ วัดศรีธรรมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร) โดยมีพระครูวิจิตรวิโสธนาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ชอบ ท่านดื่มด่ำในการภาวนามาก ท่านใช้คำบริกรรม "พุทโธ" อย่างเดียวมิได้ใช้ "อานาปานสติ" หรือกำหนดลมหายใจ เข้า-ออก ควบคู่กับพุทโธเลย สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น สิ่งที่ไม่เคยรู้ก็ได้รู้ สิ่งที่เป็นอสาธารณแก่ปุถุชนธรรมดาก็กลับปรากฏขึ้นเป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง ท่านเป็นที่เคารพรักของเหล่าเทพยดา บางคราวหลงกลางป่าหลายๆ วัน เดินทางจากพม่าจะเข้าไทย หลงป่าเจียนตายเพราะหิวกระหาย เทวดาได้นำอาหารทิพย์มาใส่บาตร ท่านเล่าว่า อาหารนั้นมีรสอร่อยส่งกลิ่นหอมหวนชวนชื่นใจ ฉันแล้วหายเมื่อย หายหิวไปหลายวัน

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านเป็นพระอริยเจ้าผู้ทรงอภิญญา คือ
๑. อิทธิวิธี แสดงฤทธิ์ได้ หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร ศิษย์เอกของหลวงปู่ชอบ แห่งวัดถ้ำสหายธรรม จ.อุดรธานี เคยเล่าให้ฟังว่า.. “สมัยเดินธุดงค์ไปกับหลวงปู่ชอบ ในป่า ๒ ต่อ ๒ เคยออกเดินนำท่านไปก่อน สักพักเงยหน้ามามองท่านก็มาเดินนำหน้าเราแล้ว พอคิดว่าหลวงปู่เพิ่นเดินมาแซงได้อย่างไร แป็บเดียว ท่านก็หายตัวไปเดินอยู่ข้างหลังทันที เป็นอย่างนี้อยู่บ่อย ๆ ”

อีกครั้งหนึ่งหลวงปู่ชอบท่านพักอยู่ที่ผาแด่น ในเขต อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยพระเณรที่ตามขึ้นไปทำความเพียรบนยอดเขานั้น วันนั้นเป็นวันพระ จะต้องลงเขาไปร่วมอุโบสถ หลวงปู่ก็นำพระเดินลงมาจากผาแด่น พอไปถึงลำธาร ปรากฏว่าน้ำไหลแรงมาก เพราะเมื่อคืนฝนตกหนัก และได้ตกติดต่อกัน เป็นเวลานาน ทางเดินจากยอดเขา ที่จะผ่านลำธารนั้น ถูกตัดขาดด้วยกระแสน้ำ ไม่มีใครกล้าข้ามสักคน ด้วยน้ำไหลเชี่ยวและลำธารนั้นลึกมาก หลวงปู่ไปยืนพิจารณาอยู่ริมลำธาร เพียงอึดใจเดียว กระแสน้ำที่กำลังไหลเชี่ยว ก็พลันหยุดนิ่งในทันที ! ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงกันหมด ต่างก็คิดกันว่า เคยได้ยินเรื่องอัศจรรย์ของหลวงปู่มาก็มาก ไม่นึกว่าจะได้มาพบกับตาตัวเองก็คราวนี้ หลวงปู่ก้าวข้ามลำธารไปก่อน มองกลับมาเห็นศิษย์แต่ละคนกำลังอยู่ในอาการตกตะลึง ท่านจึงเรียกให้ข้ามตามท่านมา บรรดาศิษย์ทั้งหลายก็พากันกลัวๆกล้าๆ กว่าจะได้สติกัน ก็เดินข้ามลำธารกันมาหมดทุกองค์แล้ว เมื่อพ้นมาเพียงอึดใจเดียว กระแสน้ำในลำธารที่หยุดนิ่งเมื่อสักครู่นี้ ก็เกิดไหลเชี่ยวกรากต่อไปดังเดิม มีพระไปกราบเรียนถามหลวงปู่ว่าทำอย่างไรจึงหยุดน้ำได้ หลวงปู่ตอบว่า “ภาวนาไปก็รู้เอง ”

๒. ทิพโสต หูทิพย์ ท่านสามารถแสดงธรรม และสนทนาธรรมเป็นภาษาต่างๆ ได้หมด เพียงกำหนดจิตดูว่าภาษานั้น เขาใช้พูดกันว่าอย่างไร ท่านแสดงธรรมโปรดเทวดา พญานาค ตลอดจนภพภูมิต่าง ๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์

๓. เจโตปริยญาณ รู้จักกำหนดใจผู้อื่น องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ผู้เป็นอาจารย์ได้ไว้วางใจมอบหมายให้ท่านช่วยดูแลพระเณรที่คิดอะไรนอกลู่นอกทาง ไม่ถูกต้องตามครรลองของผู้ทรงศีลธรรม ท่านก็จะตักเตือนอย่างตรงไปตรงมา ท่านมีความรู้ภายในว่องไวไม่แพ้หลวงปู่มั่น พระเณรทั้งหลายจึงเกรงกลัวท่านมาก หลวงปู่มั่น ออกปากชมท่ามกลางสภาสงฆ์ว่า... "ให้ทุกองค์ภาวนาให้ได้เหมือนท่านชอบสิ ท่านองค์นี้ภาวนาไปไกลลิบเลย"

๔. บุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติได้ ท่านระลึกชาติรู้อดีตชาติของท่านเองว่าเคยเกิดเป็นอะไรมาบ้าง เคยเกิดเป็นพระภิกษุรักษาศีลอยู่กับพระอนุรุทธะเถระเจ้า เคยเป็นสามเณรน้อยลูกศิษย์พระมหากัสสปะเถระเจ้า ท่านเคยเกิดเป็นท้าวมหาพรหมในพรหมโลก และเป็นสัตว์หลายชนิด ท่านเดินทางไปหมู่บ้านกะเหรี่ยงกลางหุบเขา เพื่อโปรดพี่ชายท่านในอดีตชาติที่รักกันมาก ซึ่งได้เกิดมาเป็นกะเหรี่ยงชื่อเสาร์ ที่บ้านผาแด่น ต.ป่ายาง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ท่านเมตตาเพื่อไปโปรดดึงเขา ให้เข้าสู่สายทางธรรม ต่อมานายเสาร์ ได้บวชเป็นพระติดตามท่านตลอดชีวิต

๕. ทิพจักขุ ตาทิพย์ ท่านล่วงรู้สิ่งลึกลับที่คนธรรมดามองไม่เห็น เช่น เทวบุตร เทวดา อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ พญานาค ภูตผีปีศาจมากมาย แม้แต่ความรู้สึกนึกคิดภายในใจของคน ท่านก็สามารถล่วงรู้ได้

๖. อาสวักขยญาณ รู้จักทำอาสวะให้สิ้นไป ท่านบรรลุธรรมขั้นสูงสุดปี พ.ศ.๒๔๘๗ พรรษาที่ ๒๐ อายุ ๔๓ ปี ที่ถ้ำบ้านหนองยวน ประเทศพม่า ซึ่งหลวงปู่ขาว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกลองเพล และหลวงปู่แหวน สุจิณโณ แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง มาพบกันกับหลวงปู่ชอบ หลวงปู่ขาวได้ถามหลวงปู่ชอบว่า “ ท่านอาจารย์ชอบไปอยู่ทางพม่าเป็นอย่างไรบ้าง ภาวนาดีไหม ” หลวงปู่ชอบตอบว่า “ ภาวนาอยู่ทางเมืองพม่าดีมาก การปฏิบัติมีแต่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ จนสุดหนทางที่ผมจะต้องเดินต่อไปอีก ไม่มีภาระอะไรเหลือให้ผมทำอีกแล้ว ผมมีปัญญาเป็นของตนเองแล้ว การเกิดของผมนับแต่นี้เป็นต้นไป เป็นอันว่ายุติไว้ที่ชาตินี้เท่านั้น ” เมื่อหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ กับ หลวงปู่ขาว อนาลโย ได้ฟังคำตอบของหลวงปู่ชอบ ต่างองค์ต่างก็ทราบว่าหลวงปู่ชอบท่านสำเร็จกิจแล้วในพระศาสนา ต่างก็พากันอนุโมทนากับหลวงปู่ชอบที่ข้ามพ้นวังวนไปได้แล้ว

ปี พ.ศ.๒๕๐๑ ชาวบ้านถวายที่สร้างวัดร้อยกว่าไร่ ท่านจึงได้รับสร้างเป็นวัดป่าสัมมานุสรณ์ ปี พ.ศ.๒๕๑๔ ท่านป่วยเป็นอัมพาต เมื่อหลวงปู่มีอายุได้ ๙๐ ปี ท่านได้อาพาธและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายท่านอาพาธด้วยโรคชรา หลวงปู่เข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลศิริราช อาการของท่านทรุดหนัก หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท พิจารณาแล้วเห็นควรเชิญท่านกลับมาละสังขารที่วัด ตามประเพณี ของพระป่าสายกรรมฐาน

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานเมื่อวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๘ ณ วัดป่าสัมมานุสรณ์ สิริอายุรวม ๙๓ ปี ๑๑ เดือน ๒๗ วัน พรรษา ๗๐

“..ให้พิจารณาความตาย นั่งก็ตาย นอนก็ตาย ยืนก็ตาย เดินก็ตาย..”
โอวาทธรรมคำสอนหลวงปู่ชอบ ฐานสโม “พระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา”

หลวงปู่เตือนเสมอถึงภัย ๔ อย่างของพระกรรมฐาน ท่านได้สอนศิษย์ของท่านควรระวัง... “ระวังเหมือนถ้าเฮาจะลงไปในฮ้วงน้ำข้ามโอฆสงสาร ก็ต้องระวังภัย ๔ อย่างคือ คลื่น หนึ่ง จระเข้ หนึ่ง วังน้ำวน หนึ่ง...และ ปลาร้าย อีกหนึ่ง”

ท่านบอกให้ศิษย์ระวัง “ทั้งคลื่น ทั้งจระเข้ ทั้งวังน้ำวน และปลาร้าย

ความดื้อดึง ไม่อดทนเชื่อฟังต่อโอวาทที่ครูบาอาจารย์พร่ำสอนและนำเปรียบด้วยภัย คือ คลื่น

ความเห็นแก่ปากแก่ท้อง เห็นแก่หลับแก่นอน ไม่บำเพ็ญเพียร เปรียบด้วยกับ จระเข้

กามคุณ ๕ อย่าง...รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เปรียบด้วยภัย คือ วังน้ำวน ใครหลงติดกามคุณทั้ง ๕ นี้ก็จะ “ติด” เหมือนลิงติดตังอยู่ในวังน้ำวน และมีแต่จะถูกกระแสน้ำดูดจมลงอย่างไม่ต้องสงสัย

มาตุคาม ที่พระพุทธเจ้าสอนพระอานนท์ไว้ก่อนจะเสด็จปรินิพพานว่า...ควรหลีกเลี่ยงไม่พบปะด้วย...หากจำต้องพบปะก็ไม่ควรพูดด้วย...หากจำต้องพูดด้วย ก็ต้องพูดด้วยความสำรวมมีสติ...ท่านเปรียบด้วยภัย คือ ปลาร้าย...”



ขอบคุณข้อมูลจาก พี่เอ ท่องถิ่นธรรม พระกรรมฐาน

_/\_ _/\_ _/\_
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นมนุษย์ทั้งที อย่าให้ย้ำอยู่ที่เดิม หาทางปฏิบัติเจริญปัญญา เพื่อเดินไปข้างหน้า เพื่อบรมสุขตามรอยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เที่ยวอุบล | ขายโรงงานสมุทรสาคร
หน้า: [1]
พิมพ์
กระโดดไป: