“คน ทุกคนในโลกมีชีวิตอยู่ได้และมีความสะดวกสบายอยู่ได้ เพราะอาศัยความรู้สติปัญญาความสามารถของผู้อื่น จนนับไม่ไหว หากไร้ปัจจัยอันสำคัญนี้เสียแล้ว เขาจะต้องตายแล้วตั้งแต่ออกจากท้องมารดาใหม่ ๆ เพราะไม่มียาจะกิน ไม่มีผ้าจะห่ม ไม่มีหลังคาจะอาศัย
เขา ไม่รู้จักหน้าค่าตาของผู้ให้กำเนิดการประกอบยา การทำเครื่องนุ่งห่ม การทำที่อยู่อาศัย และวิชาความรู้ต่าง ๆ แต่เขาก็เป็นหนี้บุญคุณของบุคคลเหล่านั้นมาเสียแล้วตั้งแต่ในท้องแม่
ฉะนั้น คนทุกคนมีความผูกพันในทางหนี้บุญคุณต่อกันและกัน จนนับไม่ไหว โดยไม่ต้องกล่าวถึงบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ซึ่งเป็นหนี้บุญคุณอยู่เหนือศรีษะ โดยตรงเลย แม้การที่คนในประเทศหนึ่ง ได้เป็นหนี้บุญคุณของคนในประเทศอื่น ก็เป็นสิ่งที่จะพิจารณาเห็นกันได้ไม่ยากเลย ความรู้และยอมรับรู้ในบุญคุณของผู้อื่นที่มีอยู่เหนือตนนี้เรียกว่า กตัญญุตา การพยายามทำตอบแทนบุญคุณนั้น ๆ เรียกว่า กตเวทิตา คนผู้รู้บุญคุณท่านเรียกว่า คนกตัญญู คนที่ทำตอบแทนเรียกว่า คนกตเวที, กตัญญูกตเวทิตา-
ความรู้บุญคุณท่าน แล้วทำตอบแทนให้ปรากฏ นี้เป็นธรรมประคองโลกให้เป็นอยู่ได้ และอยู่ด้วยความสงบสุข
คน ในโลกแต่ละคน ยิ่งไม่รับรู้ในความที่ตนเป็นหนี้บุญคุณของกันและกันอย่างที่จะแยกกันไม่ออก ยิ่งขึ้นเพียงใด ก็ยิ่งทำให้โลกเต็มไปด้วยความแข่งขันแย่งชิง โหดร้ายทารุณ และเกิดลัทธิการเมือง อันทำให้โลกระส่ำระสายมากยิ่งขึ้นเพียงนั้น ฉะนั้น ความสนใจธรรมะ คือ กตัญญูกตเวทิตาธรรม นี้ นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งทีเดียว....
คนอกตัญญูอย่างยิ่ง คือ คนที่ไม่ยอมรับว่าทุกคนในโลกเป็นหนี้บุญคุณต่อกันอย่างแน่นแฟ้น
คน ที่มีความกตัญญูถึงที่สุด คือคนที่ยอมรับว่า แม้แต่สัตว์พาหนะ เช่น วัว ควาย ก็เป็นสิ่งที่มีบุญคุณ อย่าต้องกล่าวถึงบิดามารดาครูบาอาจารย์เลย ถ้าใครยอมรับรู้ในบุญคุณของวัวควายเป็นต้นแล้ว บ้านเมืองนั้นจะเต็มไปด้วยความสงบสุขเพราะมีแต่คนใจสูง รู้จักตอบแทนบุญคุณแม้แต่ควาย...คน ที่มีความกตัญญูละเอียดยิ่งไปกว่านั้น ย่อมรู้จักบุญคุณของป่าไม้ทุ่งนา ห้วยหนอง คลอง ลำธาร ถนนหนทาง และสิ่งสาธารณะอื่น ๆ กระทั่งดอกไม้และผีเสื้อซึ่งบินไปมาอยู่โดยปราศจากความรู้จักมักคุ้นกับผู้ ใด
ผู้ ไม่รู้คุณของป่า ย่อมทำลายป่าเสียด้วยความเห็นแก่ตัวข้างเดียวจนลูกหลานไม่มีไม้จะปลูกเรือน กันอีกต่อไป จนห้วยหนองคลองลำธารเหือดแห้ง เพราะป่าอันเป็นกำเนิดนั้นถูกทำลายหมด ไม่มีความชื้นของป่าคายน้ำออกมาเป็นลำธาร และจะดึงดูดเมฆฝนให้มาตกเป็นฝน ณ ที่นั้นจนเพียงพอ
คนที่มีความกตัญญูอันละเอียดสุขุมยิ่งขึ้นไปกว่านั้นอีก
ย่อมรู้จักบุญคุณของศัตรูและปรปักษ์
ตลอดจนรู้ถึงสิ่งอันเป็นอุปสรรคชนิดต่าง ๆ
ศัตรูทำให้คนกตัญญูมีความฉลาดและก้าวหน้ายิ่งขึ้นกว่าเดิม
ทำให้เขาประกอบด้วยคุณธรรมอันสูงยิ่งขึ้น
ด้วยความอดกลั้นอดทนและการเสียสละเป็นต้น
ผู้อิจฉาริษยาทำให้เรากลายเป็นคนหนักแน่นมั่นคง
และมีความกรุณาชั้นสูงพิเศษที่คนธรรมดามีไม่ได้
ธรรมที่ถ่ายทอดโดยท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ ณ สวนโมกขพลาราม วัดธารน้ำไหล จ.สุราษฏร์ธานี
ขอบพระคุณข้อมูล :
http://www.dhammasatta.org