สนุกป่วยหลวงพ่อคำเขียน สุวณฺโณ เป็นศิษย์รุ่นแรก ๆ ของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
ซึ่งมีชาตกาลครบ ๑ ศตวรรษในปีนี้ ท่านมีอัธยาศัยต่างจากเพื่อนสหธรรมิกในสายเดียวกัน
ตรงที่ท่านชอบอยู่ป่า จึงได้มาช่วยบุกเบิกวัดป่าสุคะโตบนภูแลนคาหลังจากบวชได้ไม่กี่พรรษา
และเป็นหลักของที่นั่นตั้งแต่ปี ๒๕๑๙ จนกลายเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ
หลวงพ่อคำเขียนมักสอนลูกศิษย์ให้หมั่นมีสติรู้กายรู้ใจ โดยให้
้หลักว่า "เห็น อย่าเข้าไปเป็น" นั่นคือมีอะไรก็สักแต่ว่ารู้ ไม่ยึดติดถือมั่นหรือมีปฏิกิริยาต่อมัน
ไม่ว่าชอบหรือชัง เหมือนกับที่หลวงพ่อเทียนสอนว่า "รู้ซื่อ ๆ" หรือรู้เฉย ๆ
เมื่อปี ๒๕๔๙ ท่านป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ถึงกับต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ก้อนมะเร็งไม่เพียงทำให้คอบวมเกือบเท่าหน้า หากยังบีบหลอดลมจนหายใจไม่สะดวก
แต่ท่านก็ไม่มีอาการกระสับกระส่าย ท่านว่า "หายใจแบบแหลมลมเอา"
ญาติ ยมหลายคนตกใจเมื่อรู้ว่าท่านเป็นมะเร็งและอยู่ในระยะลุกลาม
บางคนถึงกับเกาะกระจกร้องไห้หน้าห้องไอซียู
จนท่านต้องเขียนจดหมายมาปลอบใจคนเหล่านั้นว่า ท่านสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง
ผลการตรวจต่อมาพบว่าท่านมีก้อนเนื้อในมะเร็งตับอ่อนด้วย เมื่อหมอกดท้องของท่าน
พระอุปัฏฐากเล่าว่า เป็นครั้งแรกที่เห็นหลวงพ่อแสดงอาการเจ็บ
หมอถามท่านว่าเจ็บกี่เปอร์เซ็นต์ท่านตอบว่า "เกินร้อย"
พยาบาลแปลกใจถามว่าแล้วทำไมไม่ร้อง ท่านตอบว่า "ปวดแล้วจะร้องอีกทำไมให้ขาดทุน"
แล้วท่านก็พูดต่อว่า "มันเป็นเพียงอาการเอาไว้ดู ไม่ได้เอาไว้เป็น"
ในช่วงที่หลวงพ่อคำเขียนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้น ทุกขเวทนารบกวนท่านตลอดเวลา
ไม่เว้นแม้แต่ตอนรักษาด้วยเคมีบำบัดและการฉายแสง แต่ท่านไม่มีอาการทุกข์ร้อน
ท่านพูดในเวลาต่อมาว่า "การปวดนี่มันก็ไม่ได้ลงโทษเรา ไม่เท่าไหร่หรอก
แต่เราเป็นผู้ปวด นี่มันลงโทษเรา ก็เห็นมันปวด ไปลงโทษอะไรมัน(ทำไม)
เหมือนเรานอนไม่หลับก็ไม่มีปัญหา กินไม่ได้ก็ไม่มีปัญหา
แต่เราไปคิดว่าเรานอนไม่หลับ ตัวนี้อันตราย เราคิดว่าเรากินไม่ได้นี่ก็อันตราย"
แล้วท่านขมวดว่า "ตัวคิดต่างหากที่ทำให้เราเป็นภพ เป็นชาติ ต้องอยู่กับความเกิด
ความแก่ความเจ็บ ความตาย ถ้าเราไม่ไปอยู่กับมันก็ไม่มีอะไร ทำอะไรไม่ได้"
ท่านเล่าว่าตอนนอนป่วยอยู่โรงพยาบาลนั้น "มันแสนสบายหนอ"
เพราะมีคนทำให้ทุกอย่าง ท่านยังพูดอีกว่า ตอนนั้น"ไม่ต้องทำอะไรหรอก
เห็นไตรลักษณ์อย่างเดียวพอแล้ว มันโชว์ให้เราเอง"
เป็นเวลา ๘ เดือนที่ท่านได้รับการรักษาอย่างเข้มข้น เข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลหลายครั้ง
สิ้นปี ๒๕๔๙ การรักษาก็ยุติ ท่านพูดถึงความรู้สึกในช่วงนั้นว่า "ไม่ทุกข์เลย
ความเจ็บปวดแทนที่เป็นเรื่องทุกข์ เอ้า...เป็นเรื่องสนุก"
แล้วท่านก็สรุปว่า"สนุกป่วยเกือบปี"
( เขียนเล่าเรื่องจากพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล )
ขอบพระคุณข้อมูลจาก : Facebook วัดป่าสุคะโต. พระสุรินทร์ ก่อนการคิด และ
http://www.kammatan.com