ถึงแม้จิตจะยังอาศัยอยู่ในกาย แต่จิตไม่หลงรักว่าเป็นอันเดียวกับจิต
อย่าเอาจิตไปนึกว่ามันมี รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
ปล่อยไปเพียงแต่ผ่านมาผ่านไปเท่านั้น
ถ้าทรงอารมณ์อยู่จิตไม่สนใจขันธ์ ๕ ของใครวางเฉยไม่ทุกข์ร้อน
ทำงานทุกอย่างตามหน้าที่
อารมณ์เฉยเป็นเอกัคตารมณ์
เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีสำหรับเรา เราไม่มีสำหรับกาย
จิตจะสะอาดเบิกบานผ่องใสพ้นจากความยึดมั่นในของปลอมของทุกข์ของร้อนพระท่าน เรียกว่า จิตของพระอรหันต์
วิธีทำจิตให้ว่างจากกายเรากายเขาแบบนี้ เป็นวิธีลัดแบบง่าย
มีแต่พรหมวิหาร ๔ ไม่ยึดถืออารมณ์ใดๆมาไว้ในจิต
มีความจำได้หมายรู้ก็เหมือนไม่มีความจำ
เพราะความจำอยู่ได้ไม่นานไม่ช้าก็ลืม
ประสาทสมองลืมง่าย
ความคิดความจำ ความฟุ้งซ่าน วิตกกังวลเป็นเรื่องของกายให้สลัดทิ้ง
ให้จิตเต็มไปด้วยพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
จิตจะเบาบริสุทธิ์สะอาด จิตอันนี้เราจะตามรอยพระพุทธบาท
เมื่อกายพังแตกสลาย ผู้เพียรทำจิตให้ว่างจากร่างกาย
หรืออารมณ์ต่างๆแบบนี้เป็นแบบของพระอริยเจ้า
เป็นสมาธิเป็นวิปัสสนาญาณอยู่ด้วยกัน
ทำได้ทุกเวลา ทุกอิริยาบถ นั่ง นอน ยืน เดิน
ทำได้ทั้งที่อยู่คนเดียวและอยู่แบบหมู่คณะ
เป็นทางหลุดพ้นทุกข์ได้อย่างแน่นอน
เป็นทางลัดตรงไปสู่จุดหมายปลายทางคือ พระนิพพาน
หลวงพ่อดาบส สุมโน