สงสัยมรรคผลสมัยหนึ่งหลวงปู่ไปทำความเพียรที่วัดแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า
ที่นี่ผมเองก็ยังไม่สิ้นสงสัยดอก ฟังแต่คำพูดของครูบาอาจารย์แล้ว ก็ฟังแล้วฟังเล่า
บางองค์ก็ถูกจริตจิตใจดี บางองค์ก็ไม่ถูกจริตจิตใจ แล้วก็สงสัยไม่รอดไม่แล้ว
จะมีหรือไม่หนอ บุญกุศลมรรคผลธรรมวิเศษนั้น หรือหมดเขตหมดสมัยแล้ว
ผมเองก็สงสัยอย่างนั้้น ไม่สิ้นสงสัยลงได้ ต่อเมื่อจะตัดความสงสัยลงได้ว่า บุญมี บาปมี นรก สวรรค์ นิพพานมี
ยังมีอยู่ ไม่ขาดไปจากศาสนาพุทธ ไม่ขาดไปจากโลก สำหรับผู้ปฏิบัติจะต้องได้รู้ได้เห็น และ ได้ดื่มรสของความสงบนั้น แล้วจะสิ้นความสงสัย
ผมก็เลยตั้งใจ อธิษฐานใจมั่น ถ้าบุญวาสนาส่ง ที่ได้ประพฤติปฏิบัติมาแต่ภพก่อนและชาตินี้ประกอบกันเข้า
ก็ขอจงให้เห็นเป็นไป จะได้สิ้นสงสัย จะทำความเพียรบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
เพื่อว่าจะได้แลกเปลี่ยนเอาซึ่งบุญกุศลมรรคผลเท่าที่ควรนั้น ขอจงเป็นไป
ก็เลยตั้งสัตย์ ๖ วัน ๖ คืน จะไม่นอน ใน ๖ วัน ๖ คืนนี้ จะฉันมื้อเดียวเท่านั้นคือ วันที่ ๔ ฉัน ๕ คำ
แล้วก็หยุด เรื่องการทำความเพียรนั้น ยืน เดิน นั่ง ทั้งกลางวันกลางคืน
พอถึงวันถ้วน ๖ จบแล้ว การตั้งสัตย์ทำความเพียร ก็เลยนอนพักผ่อนก็วางความอยาก อยากรู้ อยากเห็น
อยากโน้นอยากนี้ จะมีหรือไม่ วางหมด ไม่ยึด ถึง ๖ วัน ๖ คืน แล้วก็คงจะไม่มีหรอกนะ พอวางความอยากเท่านั้นแหละ จิตก็สงบพั๊บ
จิตสงบพั๊บนั้น จะเป็นขั้น ขนิกสมาธินี่แหละ แต่ก็ไม่รู้ดอก เพราะไม่ได้ศึกษา เล่าเรียนตรี โท เอก เอากำปั้นไถไปเลยบวชมานี่
พอจิตสงบเท่านั้นแหละ แขนขวานี่ก็แตกเลย หนังแตกตั้งแต่สุดปลายมือไปถึงแขนศอก
กระดูกขาดเสียก(แทงทะลุหนัง)ขึ้นมาเลย เพ่อเว่อขึ้นมาเลยกระดูกนั้น
"อันนี้มันอะไรเล่า?"
"นี่แหละเริ่มแรกจะเกิด อสุภกรรมฐาน มรณกรรมฐานของร่างกายนี้นั้น ขั้นแรกแต่ต้องศึกษาให้รู้
อันนี้เป็นผลของการปฏิบัติให้ผลเป็นอย่างนี้ แล้วก็จงอย่าได้สงสัยในธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น
จะเกิดมีขึ้นแก่ผู้ปฏิบัติ ถ้าไม่ปฏิบัติแล้วก็ไม่มี"พูดมาอย่างนั้น
"ใครเล่าเป็นคนพูด?"
พระธรรมเป็นคนพูด...!
แต่กาลนั้น ผมก็รีบร้อนไปก่อน โลดโผนไปเลย ก็เลยดวงจิตผมนี่นั้น ออกจากร่างกาย ร่างกายนอนอยู่
ก็เลยจับเอามีดแหลมคมกริบมาพร้อม จะเอามาจากไหนไม่ทราบ นึกว่ามีก็มีเลย ก็เลยเอามีดปาดหนัง
แล่หนัง ลอกเข้าไปถึงปลายปาดหมดทั้งขา ๒ ขา แขน ๒ แขน ลอกออกหมด มีแต่หนังหุ้มอยู่
แล้วก็ปาดเข้าถึงศรีษะ ศรีษะก็ลอกหมด ไปติดอยู่ที่ตา ดึงก็ไม่ขาด ติดอยู่ที่ตานี่ ตานี่เหนียวแน่น
ถ้าเอามีดมาปาดก็คงจะขาดออกหมด
เมื่อดึงออกไม่ขาดก็เลยวาง หนังนั้นก็รีบรุดหุ้มห่อกายเข้าทั้งหมดทุกอย่างดีตามสภาพเดิม
ดวงจิตนั้นก็เข้าในกายพั้บไปสู่ภพเก่าที่มาถือปฏิสนธิในครรภ์มารดา นั่นแหละ เป็นภพของจิต
สถานที่จิตอยู่นั้น เมื่อไปอยู่นั้นเป็นอย่างไรเล่า ธรรมที่เกิดขึ้นนี้เป็นธรรมอะไร กำหนดถาม
ก็พูดขึ้นมาอีกว่า ความสงบนั้น เป็นผลของการปฏิบัติเดินจงกรม ยืนภาวนา
อดนอนผ่อนอาหาร ๖ วัน ๖ คืน ยืน เดิน นั่ง นี่ ผลเกิดขึ้น จากเหตุคือการปฏิบัตินั้น ฉะนั้น
จงตกลงใจเสีย อย่าเพิ่งสงสัย ถ้าสงสัยลังเลแล้วก็ไม่เป็นไป เป็นเหตุให้เก้อเขินและเป็นเหตุให้กีดขวางชั่งตวงจิต ไม่ตกลงการปฏิบัติได้
หนังสือชีวประวัติหลวงปู่จันทา ถาวโร