• ในความเป็นพุทธ
คุณจะรู้ว่าตัวเองเริ่มแน่พอ
เมื่อสูญคนรักโดยไม่เสียน้ำตา
และไม่มีความถือสา แม้ต้องคุยยาวกับศัตรู
• ใช้ชีวิตแบบชาวพุทธ ที่มีความเบิกบาน
คือวางแผนจะอยู่อย่างเจริญรุ่งเรืองไปอีกหลายสิบปี
แต่ก็เตรียมตายอย่างสบายใจในวันนี้
• ยิ่งรู้จักพุทธศาสนาเร็วเท่าไร
ก็ยิ่งได้เห็นความโง่ของตัวเองเร็ว
และมีเวลาเหลือพอ ให้แก้โง่ได้นานขึ้นเท่านั้น
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
• การพบพุทธศาสนาแบบไม่เข้าใจ ไม่เข้าถึง
ก็เท่ากับหมดโอกาสรู้ตัว
ว่ากำลังจ่ายค่าโง่กันเป็นภพเป็นชาติ
ซึ่งก็นับไม่ถูกว่ากี่แสน กี่ล้าน กี่โกฏิชาติแล้ว
มูลค่าในการทำให้คนๆหนึ่งเข้าใจศาสนาพุทธ
จึงตีเป็นจำนวนเงินเท่านั้นเท่านี้ไม่ได้
: ค่าโง่ที่น่าเสียดายที่สุด
คือการพบพระพุทธศาสนา
แต่ไม่รู้ว่าพุทธศาสนา
คือประตูไปสู่บรมสุขอันเป็นอมตะ
มัวหลงเข้าใจว่าพุทธศาสนา
เป็นแค่อีกศาสนาหนึ่งที่มีไว้
เพื่อให้เลือกเชื่อ
หรือไม่เชื่อกันตามอัธยาศัย
• ชาวพุทธที่เข้าถึงปัญญาแบบพุทธ
จะรู้ว่าความฉลาดสูงสุดไม่ใช่เลข I.Q. สูงสุด
แต่เป็นการรู้จักโจทย์สำคัญสูงสุด
และได้คำตอบเป็นประโยชน์สูงสุด
ตามรอยบาทพระศาสดา
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
• เนื้อแท้ของการเวียนว่ายตายเกิดนั้น
ไม่มีใครทำอะไรใคร
มีแต่คนก่อกรรมให้ตัวเอง
เป็นอย่างไรกันทั้งสิ้น
• จุดเริ่มต้นและผู้สร้างไม่มี
มีแต่กฎว่า
ถ้าเหตุสว่าง ผลก็สว่าง
ถ้าเหตุมืด ผลก็มืด
นี่คือแก่น
อันเป็นยอดหนึ่งของศาสนาที่แสดงความจริง
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
• เรื่องน่าเสียดายที่สุดในชีวิตของชาวพุทธ
มีอยู่ 4 เรื่อง
1. น่าเสียดาย
ถ้าก่อนตาย...ไม่ได้ศึกษาพุทธพจน์
2. น่าเสียดาย
ถ้าศึกษาพุทธพจน์แล้ว...ไม่เลื่อมใส
3. น่าเสียดาย
ถ้าเลื่อมใสพุทธพจน์แล้ว...ไม่ปฏิบัติตาม
4. น่าเสียดาย
ถ้าปฏิบัติตามพุทธพจน์...
แต่ไม่ต่อเนื่องจนตลอดรอดฝั่ง…
ดั ง ต ฤ ณ
►
http://www.facebook.com/dungtrin_______________
โพสโดย Admin : TUNYAR
► http://www.facebook.com/DungtrinFanClub