KAMMATAN.COM BOARD พุทธกรรมฐาน สติปัฏฐาน4 ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา แจกCDธรรมะ พาเที่ยววัด กรุณา Login เพื่อมองเห็นกระทู้ เพิ่มขึ้น ครับห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆตามประสาชาวกรรมฐานคุยกันสบายๆ ตามประสาชาวกรรมฐาน.คอมวิถีแห่งท่าน phonsak(w)
หน้า: 1 ... 5 6 [7]
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: วิถีแห่งท่าน phonsak(w)  (อ่าน 117729 ครั้ง)
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #90 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2011, 09:03:03 AM »

คุณsometimeในเว็บหนึ่งเขียนว่า:  โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

ตอบ

คุณยังไม่รู้หรือว่า พวกเราทุกคนกำลังอยู่ในโลกแห่งความฝัน  เรามาเล่นละครอยู่ในโลกแห่งความฝันนี้ ตามกรรมเวรที่พวกเราเคยก่อขึ้น และเราจะเล่นละครต่อไปเรื่อยๆในสังสารวัฏนี้  แม้ว่าตายแล้ว  เราก็เกิดใหม่เป็นคนสัตว์เทวดา เปรต ฯลฯ  เล่นละครเรื่องอื่นต่อไปอีกตามกรรมเวรที่เราก่อไว้.... จนกว่าเราจะนิพพาน
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #91 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2011, 09:05:12 AM »

หากมีชาวต่างชาติมาถามว่าธรรมะคืออะไร ? ท่านจะอธิบายอย่างไร

ตอบ

ธรรมะ คือ คำสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่ส่งให้ศาสดาหรือผู้นำในศาสนานั้น สอนต่อให้กับสาวกและผู้คนที่นับถือศาสนานั้น เพื่อปรับปรุงจิตใจของตนเองให้ดีขึ้น

พระเจ้ามีวิธีของท่าน พระองค์จะช่วยสอนมนุษย์ไปเรื่อยๆ ตามสภาพแห่งภูมิปัญญา นิสัย สันดาน อารมณ์ ความเชื่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ค่านิยม ความยึดมั่น ฯลฯ ของสังคมมนุษย์ในแต่ละหมู่เหล่า นี่เป็นเหตุที่มนุษย์ในโลกล้วนนับถือศาสนาที่แตกต่างกัน

สมัยที่จิตใจมนุษย์จำนวนมากยังป่าเถื่อนอยู่ ยังมีความโลภ โกรธ หลงอย่างมาก องค์พระผู้เป็นเจ้า ก็จะส่งคำสอนง่ายๆให้ศาสดาหรือผู้นำในศาสนานั้น สอนต่อให้คนในเผ่าพันธ์นั้น เพื่อลดความความป่าเถื่อน ความโลภ โกรธ หลง ของพวกเขาให้เบาบางลง

พอจิตใจมนุษย์ในเผ่าพันธ์นั้น ลดความป่าเถื่อนลงบ้างแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้า ก็จะส่งคำสอนใหม่ๆให้ศาสดาองค์ใหม่่ สอนขัดเกลาจิตใจมนุษย์ในประเทศและเผ่าพันธ์นั้นให้มากขึ้น

ถึงจุดที่จิตใจมนุษย์ในเผ่าพันธ์หรือประเทศใดก็แล้วแต่งอกงามขึ้นแล้ว  องค์พระผู้เป็นเจ้า ก็จะส่งยอดคำสอนให้ศาสดาองค์ใหม่่ สอนขัดเกลาจิตในมนุษย์ในประเทศและเผ่าพันธ์นั้นให้พัฒนามากขึ้นไปอีก

จนกระทั่งเมื่อมนุษย์เหล่าใดพัฒนาจิตใจสูงมากๆแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้า ก็จะค่อยๆเปิดเผยความลับให้เขารู้ว่า มึงก็คือกู มนุษย์อย่างมึง ก็คือพระเจ้าอย่างกู

พระพุทธเจ้าในศาสนาพุทธ พระบิดาในศาสนาคริสต์ เง็กเซียนฮ่องเต้ พ่อเกิดแม่เกิด อัลเลาะห์ในศาสนาอิสลาม พรหม ศิวะ นารายณ์ในศาสนาฮินดู และสิ่งสูงสุดอื่นๆ ก็ล้วนคือ "กู" ซึ่งเป็นอสังขตธรรม เป็นนิพพาน เป็นพระธรรม เป็นพรหมัน เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกมึง และเป็นตัวมึงนั่นเอง

สรุป

น่าสงสารชาวพุทธเถรวาทที่ไม่ปฏิบัติ  หรือปฏิบัติไม่ถึงขั้น  พระพุทธเจ้าตรัสเองว่าท่านเป็นพระธรรม "ผู้ใดเห็นธรรม  ผู้นั้นเห็นเรา"  แล้วพระอรหันต์และพระอริยะเจ้าทั้งหลายก็ยืนยันว่า  "พระธรรมนั้นแหละคือพระพุทธเจ้า"  แต่พวกเขากลับไม่เห็นพระพุทธเจ้า  แล้วจะเรียกว่าเขาเห็นธรรมะได้อย่างไร

เมื่อพระพุทธเจ้า และ พระอริยะสงฆ์ ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า พระพุทธเจ้าเป็นพระธรรม

1. หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ เทศน์ว่า "ธรรมนั้นคือ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า"
เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ตรัสรู้พระธรรม พระธรรมได้เสกสรรค์ปั้นให้พระองค์เป็นพระ
สัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อบุคคลเรา ระลึกถึงพระองค์ ท่านก็ควรระลึกถึงพระธรรม……..ได้เข้าถึง
ธรรมกาย คือ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ”

2. หลวงพ่อชา สุภัทโท เทศน์ว่า "...พระธรรมนั้นแหละเรียกว่า พระพุทธเจ้า"
พระองค์จึงตรัสว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา" แสดงว่าพระพุทธเจ้าก็คือพระธรรม และพระธรรมก็คือพระพุทธเจ้า

3. หลวงตามหาบัว เทศน์ว่า "ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นชื่อว่าเห็นเราตถาคต ตถาคตแท้ ๆ คือธรรม".......

ยิ่งกว่านี้ พระพุทธองค์ยังตรัสกับพระวักกลิว่า

" .... ผู้ใดแลเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นเรา ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นธรรม "


พร้อมทั้งทรงยืนยันกับพระวักกลิว่า

" วักกลิ เป็นความจริง บุคคลเห็นธรรมก็ย่อมเห็นเรา บุคคลเห็นเราก็ย่อมเห็นธรรม เห็นธรรม
ก็ย่อมเห็นเรา บุคคลเห็นเราก็ย่อมเห็นธรรม "
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #92 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2011, 09:06:47 AM »

คุณมนุสสเทโวครับ

1.ภวังค์จิต ในฌาน 3-4 ของคุณ หรือคนอื่นๆที่ทำได้ สามารถรู้ ครบถึง 31 ภพภูมิหรือไม่ครับ

เมื่อคุณไปดูนครสวรรค์  คุณจะรู้เขียงใหม่ นครนายก หรือฮ่องกง ลอนดอน ได้ไหมล่ะ
เมื่อเขามีเงิน(บุญ)แค่ไปเที่ยวลพบุรี  เขาจะไปเที่ยวUSA ทำได้หรือ  ฌานมันต้องฝึกไปเรื่อยๆ  มันถึงไปในที่ต่างได้เพิ่มขึ้น

2.สวรรค์ นรก หรืออบายภูมิ  แต่ละคน(ภวังค์จิต หรือจิตใต้สำนึก)ของแต่ละคนในโลกนี้ เหมือนกันหรือไม่ครับ

ถ้าสวรรค์ของฮินดู เหมือนกับอิสลาม คงแย่แน่  พวกนึงไม่กินเนื้อวัว  พวกนึงไม่กินเนื้อหมู  และยิ่งเหมือนกับพวกกินเจ ยิ่งบ้าไปกันใหญ่ สวรรค์ไปเหมือนของอินเดียนแดง คราวนี้ไปกันใหญ่เลย

ถ้ายมทูต ยมบาล ของเมืองไทย ที่เปิดเสื้อนุ่งขาสั้น  ไปเหมือนกับยมทูต ยมบาลของต่างประเทศ นี่ก็ยุ่งเช่นกัน  เขาจะหาว่าเราเป็นพวกป่าเถื่อน

แต่นรกและอบายภูมิ มันจะเหมือนกันหรือไม่  ใครจะไปสน ไฟนรกอยู่ที่ไหน มันก็โคตรร้อน  หอกดาบแทงลงไปจะไปแทงที่ไหน มันก็เจ็บทั้งนั้น

3.แล้วผู้ที่ไปเกิดเป็น อรูปพรหม ตอนนั้น ภวังค์จิต หรือจิตใต้สำนึก และเหตุวิบากกรรม ที่นำไปเกิด ของเขาน่าจะเป็นเช่นไรครับ

เมื่อเขาทำจิตให้เชื่อว่า การเป็นอากาศที่ไม่มีรูปร่างนั้นเป็นสุขที่สุด  ภวังค์จิต หรือจิตใต้สำนึก คิดว่าเป็นเช่นนั้น แล้วเขาก็ฝึกสำเร็จไปถึงจุดนั้น  ที่จิตของเขาต้องการได้ มันก็นำเขาไปเป็นอย่างนั้น

วิญญาณที่ตกนรก  เพราะจิตของเขาชอบการฆ่า มุ่งการฆ่า  เขาก็ต้องโดนนรกนำลงไปถูกฆ่าบ้าง  ตามนิสัยชอบฆ่าของเขา  เพียงแต่เปลี่ยนจากการฆ่าเขา มาเป็นตนเองถูกฆ่า

จิตวิญญาณของพวกชอบการทำบุญชอบการให้ จิตของเขาก็นำเขาไปในเรื่องการให้  แต่ครั้งนี้เป็นการโดนให้โดยสวรรค์
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #93 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2011, 09:08:31 AM »

อาจารย์ก๋งเขียน:

พระพุทธองค์เน้นธรรมชาิติื  ๆ คือความเป็นจริงครับ

อาก๋งพูดไม่กระจ่าง หรืออาจารย์ไม่รู้กันแน่  ผมเห็นว่าอาจารย์ก่งกำลังพยายามมั่ว  ผมเลยขอชี้แนะนะครับ

ธรรมชาติ หรือความจริงนั้น แบ่งเป็น

1. สังขตธรรม  ธรรมชาติขนิดนี้มีกฎแห่งกรรมเป็นผู้ควบคุม ถ้าทำชั่วก็ลงไปสู่อบายภูมิและนรก  ถ้าทำดีก็ไปเป็นเทพและพรหม  ถ้าจิตว่างไม่รับกิเลส  ไม่มีโลภ โกรธ หลงก็เป็นอรหันต์ หรือพระวิสุทธิเทพ กลับเข้าไปเป็นธรรมชาติในแบบที่ 2 คือ อสังขตธรรม

แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ทำสมาธิ(กรรมฐาน) เขาจึงไม่รู้ แล้วมีพวกมารตามลวงในจิตเขาด้วย  ทำให้มนุษย์ไม่สามารถรู้เห็นความจริงในเรื่องธรรมชาติแบบนี้ว่า   มีบางอย่างที่เรามองไม่เห็นคือ เจ้ากรรมนายเวร พวกเทพ พรหม เปรต สัมภเวสี ปีศาจ อยู่ในโลกวิญญาณ  แล้วคอยบงการสภาพความเป็นไปในโลกมนุษย์ของเรา

2. อสังขตธรรม ธรรมชาติชนิดนี้คือนิพพาน หรือสภาวะของพระเจ้า หรืออรหันต์  เมื่อมนุษย์ยังไม่มีปัญญารู้เห็นธรรมชาติในโลกวิญญาณ  ไฉนมนุษย์จะไปมีปัญญารู้เห็นพระวิสุทธิเทพ  ที่แม้แต่พวกที่อยู่ในโลกวิญญาณก็ยังไม่สามารถเห็นสภาวะของท่านได้
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
AVATAR
Administrator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 29
กระทู้: 966


ดูรายละเอียด
« ตอบ #94 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2011, 09:11:18 AM »

จากกระทู้ ตอนนี้พระศรีอาริย์ประทับอยู่ที่ไหน?

พระอชิตะ หรือสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรยบรมนิยตโพธิสัตว์ ในภายหลังที่พระองค์ได้รับพุทธทำนายจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคดมของพวกเราแล้ว เมื่อพระองค์จุติจากพระชาตินี้แล้ว พระองค์ก็ได้ไปปฏิสนธิอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต ปรากฏพระนามว่า "นาถเทวเทพบุตร" ณ กาลนี้พระองค์ก็ยังดำรงพระองค์เป็น "นาถเทวเทพบุตร" อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต.......

ผมตอบเพิ่มว่า

พระศรีอาริยเมตไตรยมหาโพธิสัตว์ ท่านมีหลายจิตวิญญาณ เพราะท่านเป็นหน่อพุทธภูมิ ท่านจึงสามารถอวตาร ส่งจิตแต่ละดวงของท่านลงไปสร้างบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าได้

จิตพระศรีอาริยเมตไตรยมหาโพธิสัตว์จิตหนึ่ง ลงไปเกิดเป็นหลวงปู่ทวด จิตพระศรีอาริยเมตไตรยมหาโพธิสัตว์อีกจิตหนึ่ง ลงไปเกิดเป็นหลวงพ่อโต จิตพระศรีอาริยเมตไตรยมหาโพธิสัตว์อีกจิตหนึ่ง ก็ลงไปเกิดเป็นหลวงปู่ดู่ ซึ่งตอนนี้พวกท่านแต่ละองค์ก็อยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิตเช่นกัน แต่คนละเขตกับพระอชิตะศรีอริยะเมตตรัย

พระอชิตะศรีอริยะเมตตรัยมหาโพธิสัตว์ ท่านเคยบอกกับผมว่า ยังมีจิตพระศรีอาริยเมตไตรยมหาโพธิสัตว์อีกจิตหนึ่งของท่าน จะไปเกิดเป็นหลวงพ่อหลวงปู่อีกองค์หนึ่งเป็นดวงที่ 4 บารมีของท่านจึงจะเต็มที่ พร้อมจะเป็น"พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า"


พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้าจะบังเกิดในโลกที่เรียกว่า"โลกธรรรม"


พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้าจะไม่ได้เกิดบนโลกมนุษย์ใบนี้(มิตินี้)หรอก แต่ท่านจะเกิดบนโลกมนุษย์ใบนี้เหมือนกัน แต่ในอีกมิติหนึ่งของจักรวาลคู่ขนาน เรียกว่า "โลกธรรม" ที่มีแต่คนที่มีศีลธรรมสูงอยู่ ที่นั่นจะมีแต่สันติสุข จะไม่มีการรบราฆ่าฟันกันเลย ผู้คนทุกคนจะมีศีลธรรมประจำใจ มนุษย์ที่นั่นจะไม่ถูกกิเลสครอบงำ ไม่เหมือนกับมนุษย์ส่วนมากในโลกในมิตินี้

พูดง่ายๆ ใน"โลกธรรม" ซึ่งพระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้าจะไปบังเกิดนั้น จะเป็นโลกที่มีแต่ความผาสุก ไม่มีอันธพาล มนุษย์จะได้ทุกอย่าง อย่างใจหวัง เป็นโลกที่มีความศิวิไลซ์อย่างน่าอัศจรรย์และอย่างน่าเหลือเชื่อ เหมือนอยู่บนสวรรค์ชั้นสูงก็ไม่ปาน


หลักฐานที่ชัดเจนว่า พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่มนุษย์ในโลกมนุษย์มิตินี้ ก็คือ...ขนาดรูปร่างของพระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า


ในพระไตรปิฎก พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระสรีระที่สูงถึง 88-ศอก หรือ 44-เมตร ซึ่งสูงกว่ามนุษย์ในยุคปัจจุบันนี้เป็นอย่างมากๆๆๆ ขนาดตึก 15-20 ชั้นนั่นแหละ นอกจากนี้ ตามที่พระเกจิอาจารย์ผู้มีอภิญญาหลายท่านเขีนนไว้ เช่น ท่านหนึ่งเขียนว่า

" พระศรีอริยเมตไตรย์จะทรงยื่นพระหัตถ์ขวา ช้อนเอาร่างของพระมหากัสสปะ ขึ้นมาไว้บนฝ่าพระหัตถ์ของพระองค์ "


มือเดียวช้อนร่างคนไว้ในมือ ก็แน่นอนว่า พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านสูงแบบยักษ์


 สรุป


ใครคิดว่า พระศรีอริยเมตไตรย์พุทธเจ้าเป็นมนุษย์บนโลกใบนี้...คุณคิดผิด แต่ก็ถูก

 
ผิด...ก็คือพระศรีอริยเมตไตรย์พุทธเจ้าไม่ได้เป็นมนุษย์บนโลกใบนี้(มิตินี้)

ถูก...ก็คือพระศรีอริยเมตไตรย์พุทธเจ้าเป็นมนุษย์บนโลกใบนี้(แต่ในมิตินี้ของโลกคู่ขนาน)
deity เขียน : อ่านหัวข้อทำให้ผมเข้าใจว่าไม่ใช่โลกใบนี้
เพราะโลกใบนี้โดนไฟบรรลัยกัลป์เผาไปก่อนการมาของพระศรีอารย์ครับ.........


ตอบ

มนุษย์ส่วนใหญ่ แต่ละคน จะสะสมอกุศลกรรมกันไว้คนละมาก ๆ อกุศลกรรมเหล่านั้น ย่อมเป็นมูลเหตุบันดาลให้โลกธาตุวิปริต ธรรมชาติในโลกแปรปรวน เกิดภัยพิบัติ พายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ร้ายแรงนานัปการดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ และจะต่อเนื่องไปถึงปีวิบัติโลก 2012

เหตุที่ทำให้โลกพินาศ

ในพระอภิธรรมได้กล่าวถึงเรื่องของกิเลสไว้อย่างน่าสนใจว่า..

สมัยใดที่มนุษย์มากไปด้วยโลภะ..สมัยนั้นย่อมมีอันตรายที่เกิดจากความแร้นแค้น ข้าวยากหมากแพง และภัยธรรมชาติมาก ที่สำคัญ ราคะ จะทำให้โลกพินาศด้วยไฟ (ราคะร้อนเหมือนไฟ)

สมัยใดที่มนุษย์มากไปด้วยโทสะ...สมัยนั้นย่อมมีอันตรายที่เกิดจากศาตราวุธ มีภัยสงครามมาก ที่สำคัญโทสะ จะทำให้โลกพินาศด้วยน้ำ (โทสะร้ายเหมือนน้ำกรด)

ถ้าหนาแน่นด้วย โมหะ(ความหลง) โลกจะพินาศด้วยลม (โมหะเหมือนลมกรด)

ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่ทำให้โลกใบนี้พินาศในช่วงหลายปีนี้ น่าจะเป็นส่วนผสมของราคะ โทสะ โมหะ แต่ที่สำคัญที่สุด น่าจะเป็นความหลงหรือโมหะ  ตามด้วยโทสะและโลภะ มนุษย์หลงผิดคิดว่าชนะธรรมชาติได้แล้ว รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งหลงพัฒนาความเจริญทางวัตถุมากเท่าไร ยิ่งทำให้โลกร้อนเพราะเกิดGreenhouse Effect ซึ่งจะทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และทำให้เกิดทำให้เกิดทั้งพายุและน้ำท่วม แต่มนุษย์ในทุกชาติก็ไม่สนใจ ต้องการให้ประเทศอื่นช่วยลดความร้อนของโลก แต่ตัวเองไม่ยอมช่วยลด ถ้าช่วยก็ช่วยน้อยที่สุด

การประชุมเรื่องโลกร้อนทุกครั้ง ลงมติไม่เคยสำเร็จสักที เนื่องจากไม่มีชาติไหนต้องการลดคาร์บอนไดออกไซด์ และลดการใช้เชื้อเพลิงปิโตรเลียมของตนลง ทั้งๆที่รู้ว่า การเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ และการเพิ่มการใช้เชื้อเพลิงปิโตรเลียม เป็นตัวการทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นไปอีก

ผมทำนายว่าปลายปี 2012 เกาะมัลดีพ เกาะสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยว จะจมลง เพราะน้ำแข็งขั้วโลกจะละลายหนัก   แผ่นดินส่วนหนึ่ง จำนวนไม่น้อย ในเกาะดัลดีฟ จะไม่โผล่พ้นน้ำ
บันทึกการเข้า

เกิดปัญญารู้แจ้ง ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เพื่อพากันหลุดพ้นออกจากวัฏฏสงสารนี้
phonsakw
กัลยาณมิตร ลำดับที่ 1
**

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 2
กระทู้: 94


ดูรายละเอียด
« ตอบ #95 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2011, 01:40:16 AM »

แล้วอย่างนี้ คุณทักษิณ อดีตชาติเป็นใครล่ะครับ

-ทักษิณ(Taksin) คือ พระเจ้าตากสิน(Taksin)
-พันธมิตรเสื้อเหลือง คือ บรรดาเจ้าหัวเมืองของไทย ที่โดนพระเจ้าตากสินฆ่าตาย
-ส่วนใหญ่ของพระเสื้อแดง คือ เหล่าทหารของพระเจ้าตากสิน
-อภิสิทธิ์ สุเทพ จารุวรรณ ฟันดำประสงค์ สุ่นสิริ เปรม คือเหล่าชุนนาง นายทหาร และเชื้อพระวงค์พม่าที่มาตายในเมืองไทย
-เซ็นทรัลถูกเผาเพราะผู้บริหารเซ็นทรัล เคยเผากรุงศรีอยุธยา

ทุกคนมาเพื่อใช้กรรมเก่าของตนเองทั้งนั้น

- ในหลวงคือพระโพธิสัตว์ ยิ่งลักษณ์ คนนี้ อดีตชาติคือ พระศรีสุริโยทัย แล้วก็ไปเกิดเป็นเมียร.5 ผู้้หญิงคนนี้มีบุญบารมีสูงมาก
บันทึกการเข้า
the suffering
Global Moderator
สุดยอดกัลยาณมิตร
*****

ได้รับการอนุโมทนาบุญ : 9
กระทู้: 859


ดูรายละเอียด
« ตอบ #96 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2011, 09:28:38 PM »

เมี้ยว  เมี้ยว   ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 5 6 [7]
พิมพ์
กระโดดไป: