เรื่องพระบรมสารีริกธาตุว่า มีพลังงานอะไร..
วิทยาการทางวิทยาศาสตร์ตอนนี้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมาก แต่มีอีกหลายๆพลังงานที่ยังพิสูจน์ทราบไม่ได้กัน และ พลังงานบางตัว เช่น
พลังงานที่ปล่อยออกมาจากพวกอนุภาคเล็กๆ เช่น พวกเตคีออน หามันเจอก็ยากแล้วจึงไม่รู้ว่ามันปล่อยพลังงานอะไรออกมาได้บ้าง
พลังงานบางอย่างเช่นพลังงานแสงและพลังงานเสียง มนุษย์ธรรมดา ยังสัมผัสไม่ได้เลยครับ เช่นความถี่เสียงที่เราไม่ได้ยิน แต่สุนัขฟังได้ รู้ได้ หรือแสงระดับสูงกว่าอัลตร้าไวโอเลต เราไม่สามารถ มองด้วยตาเปล่าเห็น นี้ยกตัวอย่างง่ายๆครับ ไม่ต้องถึงพวกแร่ยูเรเนียม ที่ปล่อยพลังงานนิวเคลียร์แบบอ่อนและแบบเข้มออกมา
ก็คงยังไม่รู้หรอกครับว่าพระบรมสารีริกธาตุ มีพลังงานอะไร..อาจมีหลายๆพลังงานมารวมกันก็ได้ครับ...เช่น มารวมกันของพลังงานแสง,พลังงานไฟฟ้า,พลังงานแม่เหล็ก,พลังงาน..ฯ รวมๆกันแล้วอาจเรียกว่า(ผมไม่บัญญัตินะครับ เรียกแบบไม่รู้ว่าจะเรียกอะไร)
พลังงานแห่งจักรวาล คงประมาณนี้แหละครับ เมื่อไม่มีใครรู้ก็เอาให้อลังการไว้ก่อน จนกว่าใครที่รู้ และ บัญญัติไว้ได้ค่อยเรียกแล้วกัน...
(เหมือน หินศักดิ์สิทธ์ เมกกะที่มาจากกาแลคซี่อื่น)
พลังงานจะปลดปล่อยออกมาหรือพอจะสัมผัสได้นี่ ผมว่าก็จะต้องอยู่ถูกที่ ถูกเวลา และที่สำคัญ ผู้รับและผู้ส่ง ต้องจูนตรงกันเป๊ะ ไม่งั้นรับหรือสัมผัสไม่ได้แน่ๆ
เรื่องที่ท่านเล่า(ลอก)มานี้ ก็ดีเหมือนกันครับ พอรู้ไว้ แต่...ผมติดใจตอนนึงที่บอกว่า
สำหรับพระอริยเจ้าตั้งแต่ระดับพระโสดาบัน กระดูกก็เป็นพระธาตุแล้ว จนถึงระดับพระสกิทาคามี พระอนาคามีด้วยปัญญาอันเล็กกระจ้อยร่อยของผม ผมคิดว่ายังไม่ใช่พระธาตุครับ เพราะไม่งั้น พระโสดาบัน ซึ่งยังไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์(นิพพาน)
และยังจะเกิดอีก อย่างน้อย ๗ ชาติ ท่านคงมีพระธาตุได้อีก ๗ ครั้งหรือครับ...ผมคิดว่าคงไม่ใช่
นอกเสียจากว่าเป็นพระอรหันต์หรือสูงกว่าเท่านั้น กระดูกจึงจะเป็น พระธาตุ
แอบไปดูของตัวเองบ้าง...เม็ดใหญ่และเม็ดเล็กๆ ยังอยู่ในผอบน้อย...เช่นเดิม...