*สิ่งใดปิดบังทุกข์ไว้ ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นทุกข์ได้
อะไรคือทุกข์ ทุกข์คือความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ
จากหนังสือของวัดพระธาตูศรีจอมทอง กล่าวไว้ว่า
ทุกข์ ทางกาย ถูกปิดบังไว้ด้วย ความเปลี่ยนแปลง เช่น
1.ในอิริยาบถทั้ง 4 จากเดิมที่เรานั่งท่าเดิมไปนานๆ จะเกิดความเมื่อย (ทุกข์)เราก็จะขยับตัว หรือ เปลี่ยนเป็น ยืนหรือเดินหรือ นอน
2. ทุกข์จากความร้อน ความเย็น ความอ่อน ความแข็งเช่น เมื่อร้อนเราก้แก้ทุกข์ด้วยการเปิดพัดลม หรือแอร์
3.การหายใจ หายใจเข้า ต้องมีหายใจออก ลองอั้นลมหายใจจะรู้ว่า สุดทรมาน
4.กระบวนการที่ เซลล์ตายไปและเกิดใหม่ อันนี้ดูได้ด้วยการถูตัวจะมีขี้ไคลหลุดออกมา หรือ เล็บงอกต้องตัดเล็บอีกแล้ว
5...อื่นๆ
เริ่มเห็นทุกข์ หรือยัง
ทุกข์ต่อไปจะเข้มข้นขึ้น คือความเจ็บป่วย ตั้งแต่น้อยๆ ไปจนมาก ก ก
แล้ว ทุกข์สุดท้ายการที่ร่างกายนี้เสียสมดุลย์ มากเหลือเกินจนทนต่อไปไม่ได้ต่อไปอีกแล้วจน(จิต)ต้อง ละสังขารนี้ไป ....ในที่สุด
**และเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ลองเหลียวมองรอบๆกาย จะเห็นว่า คนหรือสัตว์
แสดงภาพระดับของความทุกข์ให้เราเห็น อยู่แล้ว ทุกข์อย่างไม่ย่อท้อ ทุกข์ทั้งนั้น
และหากเรายังต้องมาเกิดอีก ก็ย่อมถูก
ทุกข์ฟาดฟัน ซ้ำซาก ๆ ๆ ๆ ๆ อยู่เช่นนั้น
***การป.ธรรมตามแนวทางมรรค8 จะช่วยให้เรา รู้ทุกข์ด้วยจิต ....
****จิตตัวนี้(ของเรา) มันดื้อเหลือหลาย ไม่ว่าจะอ่านตำรากี่ล้านเล่ม หรือฟังการบรรยาย ธรรม นับล้าน น นครั้ง
ถ้า(จิต) มันไม่ รับ แล้ว ก็หมดหนทาง
อาจหักเหได้โดยการถูกเจ้ากรรมนายเวร ตามทวงหนี้หนักๆ เจียนตาย มั๊ง..
จึงจะเริ่มทะรนทุรายหาหนทางดับทุกข์
พระพุทธองค์ท่าน มีทุกสิ่งทุกอย่าง ทางโลก ครบถ้วนบริบูรณ์ เหลือหลาย
จิตของท่านยังเห็นว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ จริงๆ
แล้วพวกเรา มีทรัพย์ ทางโลกแค่ไหน กันเล่า จึงยึดติดแหง็กอยู่กับมัน
ความตายไม่ได้บอกเราว่า เราจะตายเมื่อไร อายุเท่าไร ที่ไหน
ก็แค่หายใจเข้าไม่หายใจออก ก็ไปแล้ว หายใจออกไม่หายใจเข้าก็เสร็จอีก
ไม่เริ่มป.ธรรมณ บัดนี้
แล้วจะไปทำเมื่อไร
อีกอย่างจะไปฝากใครทำ(จิตเรา)ก็ไม่ได้ มีตังค์เยอะแยะไปจ้างใครทำ(จิตเรา)ก็ไม่ได้ผลอีก
ใครทำ ใครได้....
ที่ท่านอ่านมา เป็นการรู้ทุกข์ด้วย...อะไรเล่านี่....ตอบว่าคือ
การรู้ด้วยสมอง*****การเริ่มป.ธรรมคือการเริ่มฝึก เพื่อให้
จิตมันเชื่อว่า กายนี้เป็นทุกข์จริงๆ
ก่อนเดินทางดูทุกข์ตัวต่อไป
คือทุกข์ทางจิต
คำถามจิตอยู่ที่ไหน....ใครรู้บ้าง