แสดงกระทู้
|
หน้า: [1]
|
2
|
ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / รบกวนถามอีกเรื่องครับ
|
เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2010, 06:15:22 AM
|
ตอนที่ผมบวชมีโอกาสปฎิบัติธรรมน้อยมากเพราะที่วัดกำลังมีงาน และเป็นวัดที่ไม่ใช่สายปฎิบัติ ขนาดทำสมาธิยังโดนเรียกเลยครับแต่ก็มีเวลาบ้างที่จะ ทำสมาธิ และจงกรม(ตอนที่จงกรมมีชาวบ้านมาเห็นแล้วพูดว่าดูนั่นซิ พระใหม่เดินจงกรม ผมก็เขินสิครับเลยเลิก) ก็ได้อาศัยตอนที่กวาด ถูวิหาร แค่นั้นแหละครับที่ทำสมาธืแบบเล็กๆ มีอยู่วันหนึ่งครับ ผมบิณฑบาตรตามปกติพอไม่มีคนใส่บาตรผมก็กำหนด ซ้านหนอ-ขวาหนอ จู่ๆ ก็เห็นภาพที่มั่นใจว่าเป็นตัวของผมเองในมโนภาพที่ชัดมาก แต่ว่าไม่เห็นเนื้อหนังนะครับ เห็นแต่กระดูก เส้นเลือด เส้นเอ็น ตอนนั้นผมอยากจะวางบาตรทำสมาธิซะเลยครับแต่ทำไม่ได้ ต้องบิณต่อ รบกวนถามว่าภาพที่ห็นเป็นอะไรครับ ใช่นิมิตรหรือเปล่าครับผม ขอบคุณล่วงหน้าครับ
|
|
|
8
|
ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / ประสบการณ์แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร
|
เมื่อ: มีนาคม 23, 2010, 12:21:59 PM
|
เหตุการณ์นี้เป็นช่วงที่ผมทำงานแล้วครับ โดยปกติผมชอบสวดมนต์ ทำสมาธิ แต่ไม่หนักแน่นครับ คือทำไม่ตลอด มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมสวดมนต์ทำสมาธิประจำ แต่ไม่มีพระ จะกราบกับหมอน อยู่มาคืนหนึ่งผมสวดมนต์แบบย่อครับ ตอนสวดมนต์ผมจะหลับตาเพื่อสำรวมสมาธิ ผมสวดมนต์ไปโดยหลับตา ตอนที่จะจบบทสังฆคุณประโยคสุดท้าย ปรากฏว่ามีแสงเกิดขึ้นตอนที่ผมหลับตาอญุ่ครับ เป็นแสงที่แผ่ลงมาจากด้านบน สีขาวนวลสว่างมาก ถึงขั้นที่ว่าผมหลับตาอยู่แล้วต้องหลับให้มิดเลยครับที่เขาเรียกกันว่าหลับตาปี๋นั่นแหละครับ แสงนี้สว่างประมาณ 3 วินาทีครับแล้วก็หายไป ไม่รู้ว่าคืออะไร รบกวนผู้รู้ด้วยครับ ผมปฏิบัติไปตามอัตภาพครับ ไม่ได้ถึงขั้นเอกอุอะไร ยังไม่มีอาจารย์เวลาเจอปัญหาก็ไม่รู้จะถามใครครับ ขอขอบคุณ
|
|
|
9
|
ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / ธรรม ไม่ยากอย่างที่คิด
|
เมื่อ: มีนาคม 19, 2010, 07:36:09 PM
|
ทุกวันนี้คนที่เข้าใจธรรมจริงๆมีน้อยมาก แม้ในวงการพระสงฆ์ก็เช่นกันเท่าที่ผมเจอมา ขอพูดแบบครอบคลุมนะครับว่า คนชั่วและคนดีมีอยู่ในทุกวงการ (คงจะพอเข้าใจนะครับว่าผมหมายความว่าอย่างไร) เข้าเรื่องต่อ บางท่านรู้จริงก็มี รู้ก็มีพอรู้บ้งก็มี รู้เท่าหางอึ่งก็มี ท่องเอาแล้วไปสอนคนอื่นก็มี ผมคิดว่ามีพวกเดียวเท่านั้นที่จะพอเข้าใจอย่างลึกซึ้ง คือพวกที่เห็นภัยในสังสารวัฏเท่านั้น ที่จะศึกษา ปฏิบัติเพื่อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ส่วนพวกที่เหลือไม่ขอเอ่ยนะครับ เท่าที่ผม ได้ศึกษาและปฏิบัติมาน้อยนิด ผมว่า พุทธศาสนา จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย อยู่ที่วิธีคิดและความอดทนในขั้นแรกเท่านั้น คือคิดว่าจริงแล้วพุทธศาสนาจะสอนอะไร(แท้จริงแล้วพระพุทธเจ้าไม่เคยสอนใครสิ่งที่เราเรียกว่าศาสนาก็ไม่ได้สอนใครเลยครับ ท่านใช้คำว่าแสดงมากกว่า เช่น ท่านจงมาเถิด เราจักแสดงธรรมให้ท่านฟัง คือท่านจะแสดงธรรมคือความจริงที่มันเป็นเหตุเป็นผลให้ผู้ฟังได้รับฟัง จากนั้นก็แล้วแต่สติปัญญาของแต่ละคนแล้วครับ) ส่วนที่ว่าต้องใช้ความอดทนในช่วงแรกนั้น เพราะว่าคนเราดำเนินชีวิตตามปกติด้วยความเรื่อยเปื่อย(หมายถึงมีส่วนที่ไม่ดีเยอะกว่าส่วนดีนะครับ เช่น โลภมา โกรธมาก หลงมาก มักมาก สารพัด)ถ้าเข้าใจแล้วว่าพุทธศาสนาสอนอะไร การฝึกเพื่อลบส่วนที่ไม่ออกไปก็เป็นเรื่องที่ง่ายเพราะย่อมเห็นโทษในส่วนที่ไม่ดีนั้นแล้ว แล้วกลับมามองดูสิครับว่าการฝึกตนเพียงเล็กน้อยตามหลักพุทธศาสนาเพียงเล็กน้อยเพื่อนลบส่วนที่ไม่ดีออกไปทำให้ชีวิตมีความสงบเกิดขึ้นอย่างมากแล้วถ้าเราปฏิบัติให้มากขึ้นศึกษาให้มากขึ้นเราจะสงบได้สักเพียงไหน ผมขอยืนยันนะครับว่าพระธรรมของพระองค์ใครหยิบเอามาใช้แม้เพียงเล็กน้อย ดูเถิดครับว่าชีวิตคุณจะดีขึ้นมากเท่าไร ในโลกนี้ยังมราความสุขที่ยิ่งกว่าความสุขที่เกิดจาก รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และธรรมาราณ์อีกคือ ความสงบที่เกิดจากภายในแล้วแผ่ออกมาสู่ภายนอกนั่นแหละครับ ส่วนคนที่คิดว่าความสุขของเขาย่อมเกิดจากความพอใจจากสิ่งภายนอกแล้วทำให้ตนพอใจนั่นย่อมเป็นทุกข์แท้จริง
|
|
|
11
|
ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / สงสัยว่าเป็นอะไรครับ
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2010, 05:50:44 PM
|
เมื่อก่อนผมสวดมนต์ ทำสมาธิแทบทุกวัน อาการจะเป็นดังนี้ครับ ถ้าใจสงบ ไม่ว่าจะนั่ง ยืน หลับตาหรือลืมตา จะมีอาการคล้ายกับว่าตัวเราหดเล็กลงเรื่อยๆ จนเล็กลงมาก แต่ถ้าถามว่าจิตเป็นสมาธิหรือยังมั่นใจครับว่ายังไม่เป็น โดยเริ่มรู้ตัวว่ามีอาการนี้ตั้งแต่มัธยม-ปวส.ครับ ถ้าตอนนี้นั่งสมาธิ อาการที่เป็นบ่อยคือ 1.ตัวโคลงเคลงไปมา 2.ตัวหดเล็กลง 3.เหมือนว่าตัวเราเบามากจนลอยขึ้นไปเรื่อยๆหรือไม่ก็ล่วงลงไปเรื่อย 4. ตอนที่ทำสมาธิถ้าเอาหัวแม่มือชนกันจะรู้สึกว่าความรู้สึกปจับที่ปลายหัวแม่มือแล้วมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ลามมาที่มือ ลามไปที่แขน จนรู้สึกว่าแขนของเราใหญ่ว่าตัวเรามากๆแต่ไม่หนักนะคครับ 5.อันนี้ขอสุดท้ายถามเพื่อประดับความรู้ช่วงที่จิตใจผมสงบนะครับ ตอนที่ผมเดินก็จะสวดมนต์ไปด้วยเพื่อไปขึ้นรถเมล์ ใจนึงมันคดว่าจะมัวสวดมนต์ทำไมรีบเดินเข้าเถอะเดี๋ยวไม่ทันรถ เท่านั้นแหละครับมีเสียงดังมาในโสตประสาทบอกว่าไม่ต้องรีบหรอกเดินไปสวดไปเดี๋ยวสวดเสร็จรถก็มาพอดีนั่นแหละ และมีอีกหลายเหตุการณ์ครับที่มีเสียงเตือนมาในโสตประสาท ส่วนมากจะมาเตือนเวลาที่จะเจออันตราย(ถ้าผมไม่เชื่อเสียงนั้นผมต้องตาบอดทั้ง2ข้างไปเรียบร้อยแล้วครับ และจะมาบอกเวลาที่มีปัญหาด้วยครับเป็นเสียงพูดที่ไม่มีเสียงแต่ได้ยินชัดเลยครับ ที่เล่ามาเพื่ออยากทราบว่า 1. อาการที่เกิดขึ้นเป็นอุปสรรคในการทำสมาธิหรือไม่ต้องแก้ไขอย่างไร 2. เสียงที่ได้ยินเกิดจากอะไรครับ ขอบคุณครับ
|
|
|
|