แสดงกระทู้
หน้า: [1] 2 3 4
1  ห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆตามประสาชาวกรรมฐาน / คุยกันสบายๆ ตามประสาชาวกรรมฐาน.คอม / Re: คุยกันสบาย...สบายครับ เมื่อ: สิงหาคม 23, 2012, 11:30:49 AM
หรือว่าในส่วนของพระอภิธรรม มีองค์ธรรมที่ขัดแย้งไม่สอดคล้องกับพระวินัยและพระสูตร มีหรือไม่...
ภิกษุสงฆ์เมื่อมีความเป็นอยู่ลำบากก็ไม่อาจสงเคราะห์ศิษย์ให้ศึกษาเล่าเรียนได้ แม้ภิกษุทั้งหลายก็มีความเห็นอันวิปลาสไป พระไตรปิฎก และอรรถกถา คือหลักฐานของพระธรรมวินัยนี้ เป็นคัมภีร์สำคัญรวมคำสอนของพระศาสดา มีความลึกซึ้ง ไพเราะ เป็นไปเพื่อความสูญสิ้นกิเลส เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพาน เป็นไปเพื่อความสิ้นทุกข์ แต่ภิกษุทั้งหลายจะไม่สนใจ ไม่ยินดีศึกษาเล่าเรียน ส่วนคัมภีร์หรือพระสูตรอันนักกวีรุ่นหลังแต่งขึ้น ซึ่งเป็นของภายนอกพระธรรมวินัย ไม่เป็นไปเพื่อความสูญสิ้นกิเลส ไม่เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพาน ไม่เป็นไปเพื่อความสิ้นทุกข์ ภิกษุทั้งหลายจะสนใจยินดีศึกษาเล่าเรียน
 

     ความขัดแย้ง คงไม่ขัดแย้ง เพียงแต่ไม่เป็นไปเพื่อดับทุกข์เท่านั้น เช่นในหมวดอภิธรรม ที่กล่าวถึง “จิตที่เกิดขึ้น ย่อมมีเจตสิกเกิดร่วมด้วย เท่านั้นดวง เท่านี้ดวง ผมอยากถามว่า แล้วจริงๆในปัจจุบันนี้มีใครรู้บ้างไหม ว่าขณะที่จิตเกิดนั้นมีเจตสิกเกิดตามขึ้นมาในขณะนั้นกี่ดวง(เอาเพียงเรื่องจิตดวงเดียวที่เกิดดับก็ตามไม่ค่อยจะทันกันแล้ว) แล้วสมมุติว่ามีคนที่รู้ได้ว่ามีเจตสิกเกิดขึ้นมากี่ดวง ก็อยากถามต่อไปว่าเมื่อรู้แล้ว จะได้ประโยชน์อะไรขึ้น เอามาใช้ดับทุกข์ได้ไหม เพราะเท่าเห็นมาส่วนมากจะเอามาคุยเป็นโวหาร ว่ารู้ธรรมะได้ลึกซึ้ง เท่านั้นเท่านี้มากกว่า  ตามข้อความที่ขีดเส้นใต้นั้นแหละครับ
2  ห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆตามประสาชาวกรรมฐาน / คุยกันสบายๆ ตามประสาชาวกรรมฐาน.คอม / Re: คุยกันสบาย...สบายครับ เมื่อ: สิงหาคม 22, 2012, 10:03:02 AM
พูดถึงเรื่องระดับปรมัตธรรม 4 อย่างคือ รูป จิต เจตสิก นิพพาน

จิต+เจตสิก = จิตปรุงแต่ง

เจตสิก เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้นในจิตใจของคนเรา ที่ช่วยตัดสินใจ หรือปรุงแต่งจิตใจ ในการทำบุญและทำบาป ซึ่งธรรมชาตินี้ เกิดพร้อมกับจิต ดับพร้อมกับจิต มีอารมณ์เดียวกันกับจิต อาศัยวัตถุ เดียวกันกับจิต เหมือนกระ...แสไฟและแสงสว่าง ที่ต้องอาศัยหลอดไฟเกิดขึ้น จิต กับ เจตสิก เป็นนามธรรมเหมือนกัน จึงเข้าประกอบกันได้สนิท เหมือนน้ำกับน้ำตาล หรือ น้ำกับสีพลาสติก โดยจิตเป็นธรรมชาติที่รู้อารมณ์ และเจตสิกเป็นธรรมชาติที่ปรุงแต่งจิต ให้รู้อารมณ์เป็นไปต่าง ๆ ตามลักษณะของเจตสิก เช่นจิตเห็นพระธุดงค์กำลังเดินบิณฑบาต เจตสิกก็ปรุงแต่งจิตให้อยากทำบุญใส่บาตร กับพระธุดงค์องค์นั้นเป็นต้น ในการนี้จึงนับว่าจิต (เห็น) เป็นใหญ่เป็นประธาน เจตสิกที่คิดจะทำบุญใส่บาตร จึงได้อิงอาศัยจิตเกิดขึ้น

เจตสิก 52 ประเภท แบ่งเป็น 3 จำพวกใหญ่ คือ
1. อัญญสมานาเจตสิก 13 ชนิด เป็นเจตสิกกลางเป็นได้ทั้งกุศลและอกุศล
2. อกุศลเจตสิก 14 ชนิด เป็นเจตสิกที่เข้ากับฝ่ายอกุศลอย่างเดียว
3. โสภณเจตสิก 25 ชนิด เป็นเจตสิกที่เข้ากับฝ่ายกุศลอย่างเดียว
การเกิดขึ้นของจิต (วิญญาณขันธ์) จะเกิดขึ้นโดยไม่มีเจตสิก (เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์) นั้นไม่ได้ ลำพังจิตอย่างเดียว ไม่สามารถรับรู้หรือนึกคิดอะไรได้เลย จิตเปรียบเสมือนนาฬิกา เจตสิกเปรียบเสมือน ชิ้นส่วนและเฟืองจักรต่าง ๆ ที่ทำให้นาฬิกาทำงานได้ จิตและเจตสิก จะแยกจากกันไม่ได้ ต้องเกิดร่วมกันอิงอาศัยกัน จิตแต่ละดวงที่เกิดขึ้น จะต้องมีเจตสิกประกอบปรุงแต่งด้วยเสมอ

สรุปแล้ว ขันธ์ ๕ (เบญจขันธ์ 1.รูป2.เวทนา 3.สัญญา 4.สังขาร 5.วิญญาณ) ก็คือ รูป จิตและเจตสิก หรือ รูปกับนาม นั่นเอง

 


    เป็นที่น่าแปลก ในหมวดอภิธรรม ที่เขียนเรื่อง รูป จิต เจตสิก นิพพาน เป็นแนวปรัชญา ได้เป็นที่สนใจศึกษากันมากมาย ทั้งที่จริงในหมวดอภิธรรมนี้ เป็นเรื่องที่มาแต่งกันหนหลัง ในสมัยพุทธกาลมีกล่าวไว้ในบางพระสูตรไม่มาก จะมีแต่เรื่อง พระวินัย กับพระสูตรเป็นหลัก ที่ท่องจำกันมา และที่สำคัญ ในหมวดอภิธรรมนี้ เป็นเพียงการศึกษาเพื่อแสดงความรู้ในเชิงปรัชญาเท่านั้นครับ
3  ห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆตามประสาชาวกรรมฐาน / คุยกันสบายๆ ตามประสาชาวกรรมฐาน.คอม / Re: รู้จริงหรือ ว่าเป็น โสดาบัน แล้ว เมื่อ: สิงหาคม 22, 2012, 09:39:52 AM

เป็นความเห็นของเพื่อนๆกัลยาณมิตรนั่นแหละครับ แต่ก็มีอ้างอิงจากท่านบ้าง

การพยากรณ์ว่าใครจะบรรลุธรรมชั้นใดก็มี แต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นครับ สาวกไม่พึงพยากรณ์กันเอง

เราก็เพียงอ่านๆไปลองเงี่ยหูฟังดูก่อน มีเหตุ มีผลหรือไม่ก็พิจารณาเอาก็พอจะได้ปัญญาบ้าง

ถ้าเราปิดกั้นและไปพยากรณ์เอาเสียเองว่า พระองค์นั้นองค์นี้เป็นพระอรหันต์ พระองค์นี้ไม่ได้บรรลุธรรม เราจะเลือกเอาเอง ตามความเห็นของเรา ว่าองค์ไหนใช่หรือไม่ใช่
เราก็ฟังๆแต่เค้าพูดกันมา แถมมีทิฏฐิเสียแล้ว ยังไม่ได้ฟังเลย แล้วก็ตัดสินไปตามทิฏฐิมานะและเข้ากับความเห็นของตนเอง  

และก็ต้องย้อนกลับมาถามตัวเองก่อนว่า เรามีภูมิจิตภูมิธรรมประมาณไหน ถึงกล้าฟันธงเอาเองว่าใครบรรลุธรรมหรือใครไม่บรรลุธรรม เช่นนี้


นั้นสิครับ การพยากรณ์ตนเองหรือผู้อื่นว่าได้บรรลุธรรมแล้ว อาจจะเป็นการนึกคิดตามเหตุผลเอาเอง  ที่ถูกที่สุด ไม่ต้องไปสนใจเรื่องธรรมลุธรรมแล้วหรือยัง แต่ให้ไปสนใจตัวกิเลส ที่ยังเหลืออยู่ดีกว่า เห็นชัดแน่นนอนครับ

[/quote]
4  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับธรรมะ ที่พุทธศาสนิกชนควรทราบ เพื่อเข้าใจในสัมมาทิฏฐิ / Re: จะเริ่มอันไหนดีก่อนครับ เมื่อ: สิงหาคม 21, 2012, 12:32:30 PM
ระหว่างวิปัสนา กับสมถะ ใช้ต่างกันยังไง เริ่มอันไหนก่อนดีครับ


ไปแบบควบคู่กันครับ
5  ห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆตามประสาชาวกรรมฐาน / คุยกันสบายๆ ตามประสาชาวกรรมฐาน.คอม / Re: รู้จริงหรือ ว่าเป็น โสดาบัน แล้ว เมื่อ: สิงหาคม 21, 2012, 12:30:33 PM
คนที่จะรู้ว่าใครเป็นโสดาบัน อย่างน้อยภูมิจิตภูมิธรรมก็ต้องเป็นพระโสดาบันหรือสูงกว่า
เรื่องนี้เคยมีการแสดงความคิดเห็นเอาไว้แล้วตามลิงค์นี้เลยครับ

http://www.kammatan.com/board/index.php?topic=802.0

 

ถ้าจะเอาคำพูดของหลวงพ่อคนนี้มาเป็น บรรทัดฐาน ผมต้องขอผ่านครับ เพราะจากการติดตามข่าวคราวต่างๆ หลวงพ่อยังมีกิเกสอยู่ในจิตอีกมาก และคงยังไม่บรรลุธรรมใดๆ เป็นแน่น
6  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: พระโสดาบัน เคยทำบาป จะตกนรก หรือไม่ เมื่อ: สิงหาคม 07, 2012, 01:48:01 PM
  ขอเพิ่มส่วนที่ยังขาดอยู่นะครับ

    ส่วนกรรมไม่ดำไม่ขาว. คือ กรรม หรือการกระทำใดๆ ที่จิต ไม่ได้หวังในผลของของบุญ และบาป ในการกระทำนั้นๆ
เช่น การทำทานทำบุญ ก็กระทำไปเพื่อ จาคะ เพื่อขจัดความตระหนี่ เพื่ออนุเคราะห์ผู้อื่น เพื่อบำรุงพระพุทธศาสนา

การถือศีล ไม่เป็นไปเพื่อหวังในมนุษย์สมบัติ เทวดาสมบัติ แต่เป็นไปเพื่อ ความไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น

การทำสมาธิ ก็ไม่ได้หวัง อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ หรือเพื่อไปเกิดเป็นเทวดา เป็น พรหม แต่เป็นไปเพื่อ ความสงบของจิตใจ และปัญญา ในการพิจารณา ไตรลักษณ์
7  ห้องนั่งเล่น คุยกันสบายๆตามประสาชาวกรรมฐาน / คุยกันสบายๆ ตามประสาชาวกรรมฐาน.คอม / Re: เทวดามีอยู่ทั่วไปหรือไม่ ? เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2012, 11:02:55 AM
ยังไม่ถูกครับ
8  ธรรมมะกับมนุษย์ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน / ธรรมมะจากพระสงฆ์ สุปฏิปันโน เป็นข้อคิด และแนวทาง เพื่อเป็นแรงใจในการปฏิบัติภาวนา / Re: การกินเจ โดย หลวงพ่อชา สุภัทโธ วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2012, 10:59:20 AM
สาธุ...
9  พระไตรปิฏก : พระอภิธรรม พระสูตร พระคัมภีร์ / พระอภิธรรมปิฏก / Re: เจตสิกปรมัตถ ประกอบด้วยอะไรบ้าง เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 01:10:37 PM
หมวดอภิธรรม เจตสิกปรมัตถ เป็นแนวปรัชญา เพิ่งแต่งขึ้นมาหนหลัง ไม่มีส่วนในการดับทุกข์ครับ เรียนรู้เพื่นเป็นภูมิเท่านั้น
10  การปฏิบัติของผู้ที่ได้ ฌาณ / ประสบการณ์ของผู้ที่ได้ไปนรกภูมิ / Re: ไม่รู้ว่านรก หรือเป่า เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 01:03:50 PM
ไอ้สิ่งที่เห็นนั้นเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นนั้นมันไม่มีจริง
11  การปฏิบัติของผู้ที่ได้ ฌาณ / ประสบการณ์ของผู้ที่ได้ไปนรกภูมิ / Re: คุณจะรู้ว่า นรก-สวรรค์ อยู่ตรงไหน ต้องอ่านเรื่องนี้ เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 01:01:06 PM
เอามาจากไหนนี่
12  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / แนะนำ สถานที่ปฏิบัติภาวนาธรรม ที่สัปปายะ ในประเทศไทย / Re: สถานที่ปฏิบัติธรรมในจังหวัดแพร่ สำนักปฏิบัติธรรมแพร่ธรรมจักร เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 12:50:38 PM
บรรยากาศดีมากครับ
13  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: นิพพานเป็นอัตตา แต่ในโลกและจักรวาล ทุกอย่างเป็นอนัตตาหมด เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 11:07:40 AM
ใช้ปัญญาแก้ปัญหา
14  ภาวนา เจริญสติ และ ปัญญา กับแนวปฏิบัติภาวนาตามหลัก สติปัฏฐาน 4 / ทางแห่งพระนิพพาน เดินไปอย่างไร มีวิธีปฏิบัติอย่างไร / Re: ทำไมชาวพุทธ ไม่สนใจพระนิพพาน เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 10:42:50 AM
ศาสนาอื่น จะมีเครื่องล่อ คือความสุข ที่เป็นนิรันดร์ และพระเจ้าจะคอยช่วยเหลือ ให้สาวกที่ศรัทราสมหวัง

   แต่พุทธศาสนาจุดหมายสุงสุดอยู่ที่นิพาน คือไม่เวียน ว่าย ตาย เกิดอีก จึงไม่มีเหลือเรื่องสุข หรือทุกข์ และพระพุทธเจ้าเป็นแค่ผู้ชี้ทาง ส่วนที่เหลือผู้ที่ปฏิบัติต้องทำกันเอง
15  พระไตรปิฏก : พระอภิธรรม พระสูตร พระคัมภีร์ / พระสูตร ต่างๆที่ควรแก่การศึกษา / Re: ลักษณะความแตกต่างของมหายาน และ หินยาน เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 08:33:05 AM
       ถึงวันนี้ในพระไตรปิฏก ก็มีการสอดแทรก ทั้ง มหายาน พราหม ฮินดู เข้ามามากมาย ผู้ที่ศึกษาธรรมะ มักจะยึดถือรับเข้ามาทั้งหมดโดยไม่รู้ตัว รวมไปถึง เรื่องหมวดอภิธรรมปิฏก ซึ่งในสมัยพุทธกาลไม่มี จะมีเพียงพระวินัย กับพระสูตร ที่พระสงฆ์สาวกท่องจำกันมาเท่านั้น
หน้า: [1] 2 3 4