1. ผมเคยคิดว่าหากการฆ่าสัตว์แล้วจะทำให้ตกนรกนั้น แล้วเราจะทำอย่างไรไม่ให้ตกนรก ........ พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า:
" กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด " สุตตันตมัชฌิชนิกาย สัจจวิภังคสูตร 22/542-546
ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุดของการหนีนรก องคุลิมาล เลิกฆ่าคนเด็ดขาดแล้ว และมาบวชเป็นพระ หลังจากนั้น พระองคุลิมาลไปบิณฑบาตในเมืองสาวัตถี กลับถูกประชาชนขว้างปาด้วยก้อนอิฐ ก้อนหิน และท่อนไม้ จนศีรษะแตก เลือดไหล บาตรก็แตก ผ้าสังฆาฏิก็ขาดวิ่น
พอพระองคุลิมาลไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคก็ตรัสว่า:
"กรรมที่จะให้ผลไปหมกไหม้ในนรกเป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนปี เป็นอันท่านได้รับผลในปัจจุบัน" (รับเศษกรรมไปแล้วจากการโดนทำร้ายบนโลก จึงไม่ต้องรับกรรมใดๆอีกในปรโลก)
"กรรมที่จะให้ผลไปหมกไหม้ในนรกเป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนปี เป็นอันท่านได้รับผลในปัจจุบัน" = องคุลิมาลไม่ต้องตกนรกหมกไหม้เป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนปี เพราะว่าท่านสำนึกบาป(ทำการก้าวล่วงบาปกรรม) ทำให้ท่านรับผลกรรมเป็นอันแสบเผ็ดเพียงในชาติปัจจุบันเท่านั้น แต่เป็นวิบากกรรมที่เบาบางลงมาก แล้ววิบากกรรมก็ไม่ให้ผลอีกต่อไป
ด้วยเหตุนี้..พระองคุลิมาลองคุลิมาลจึงไม่ตกนรกเพราะการสำนึกบาป ตั้งใจเลิกฆ่าคนอีกตลอดไป ไม่ใช่เพราะว่า องคุลิมาลไม่ตกนรกเพราะการบรรลุอรหันต์แต่อย่างใด เนื่องจาก..ตอนที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "กรรมที่จะให้ผลไปหมกไหม้ในนรกเป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนปี เป็นอันท่านได้รับผลในปัจจุบัน" ตอนนั้นพระองคุลิมาลยังเป็นพระบวชใหม่อยู่ ยังเป็นพระสดซิงๆอยู่เลย กลิ่นคาวเลือดที่ฆ่าคนตัดนิ้วมือ 999 ศพ เพิ่งหายไปเท่านั้น
อ้างอิง:๓๖. อังคุลีมาลสูตร สูตรว่าด้วยพระองคุลิมาล
www.baanjomyut.com/pratripido...pidok/504.html 2. ผมว่ายังไงก็ตกเพราะเราฆ่าสัตว์กันอยู่ทุกวัน ยุงก็เป็นสัตว์ แมลงสาปก็เป็นสัตว์ เห็บก็เป็นสัตว์ อาหารที่กินก็เป็นสัตว์ อาจเรียกว่ายืมมือฆ่าก็เป็นได้เพราะไม่ได้ล่าเองเหมือนในสมัยก่อนแต่ซื้อกินเอา เพราะร่างกายของเราต้องการสารอาหาร......... สัตว์ที่ตัวเล็ก และเป็นภัยต่อมนุษย์ จิตเราไม่ได้คิดปรุงแต่งเป็นอกุศลตอนที่ฆ่ามัน สัตว์ที่เราใช้เป็นอาหาร จิตเรายิ่งไม่คิดปรุงแต่งเป็นอกุศลใหญ่ บาปจึงเบาบาง เพราะจิตเจตนาอกุศลมีน้อยมาก ยิ่งสัตว์ที่เรามองไม่เห็น เช่น มด ไส้เดือน ฯลฯ เรายิ่งไม่คิดปรุงแต่งเป็นอกุศลใหญ่ กรรมจึงไม่เกิด เรียกว่า กรรมไม่เจตนา หรือ กตัตตกรรม จะให้ผลต่อเมื่อไม่มีกรรมอื่นให้ผลแล้ว แต่เพราะคนเราทำกรรมใหญ่ๆทุกชาติ กตัตตกรรม จึงไม่ให้ผล ยกเว้นคุณบรรลุธรรมแล้ว เช่น หลวงพ่อจรัญ กรรมใหญ่ๆไม่มีแล้ว กตัตตกรรม ที่โยนไม้ออกทางหน้าต่าง แล้วไปโดนหัวหมาเจ็บ จึงให้ผล ทำให้กิ่งไม้โดนลมพัดมาชนหัวท่านแตกนิดหน่อย
3. ผมยังสงสัยอีกว่าถ้าอย่างนั้นทำไมสัตว์ชนิดอื่นฆ่าสัตว์แล้วไม่ไปนรกหรือ เช่นสิงโต หรือมีข้อยกเว้นเฉพาะคนเท่านั้น และพืชก็เป็นสิ่งมีชีวิต ทำไมฆ่าได้ ไม่บาป......... สัตว์เหล่านั้นไม่ใช่สัตว์ประเสริฐ พวกเขาเกิดมาเป็นสัตว์ เพื่อรับกรรมจากกรรมที่ทำเอาไว้ตอนเป็นมนุษย์ อีกอย่างถ้าสิงโตต้องตกนรก พืชกินสัตว์ต่องตกนรก คงไม่มีใครหนีนรกพ้น เนิ่องจากสัตว์และพืชเหล่านั้นทำตามธรรมชาติของพวกมัน นอกจากนี้ สัตว์ที่กินพืชก็คงเข้านิพพานกันหมด
4. ผมชอบสัตว์และไม่รังแกสัตว์ และขอประนามคนที่ชอบรังแกสัตว์ แต่ไม่เห็นด้วยกับความคิดที่ว่าฆ่าสัตว์แล้วตกนรก เพราะมันขัดแย้งกันในตัวเองกับการมีชีวิตของเรา สัตว์ที่ต้องกินทั้งเนื้อและพืช ......... เพื่อนผมคนหนึ่ง อายุ 50 ปี มีอาการเจ็บท้องแปลกๆ มาขอให้ผมช่วย ผมก็แผ่เมตตาอุทิศกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของเขา ปรากฏว่าเจ้ากรรมนายเวรของเขามาหาผม เป็นลิงหรือชะนี เขาจึงโทรแจ้งเขา เขาก็สารภาพว่าตอนเด็กๆเขาทำกรรมชอบยิงหนังสติ๊กบรรุก้อนหินเล็กๆใส่ชะนี
บาปที่ฆ่าสัตว์และบาปอื่นๆถ้าไม่สำนึกผิดก่อนตาย ก็จะนำเราไปลงนรกได้ทั้งนั้น ทางแก้คือ:ให้ทำการสมาทานศีล หมายถึง การรับศีลทั้ง 5 ข้อมาปฏิบัติ ต้องงดเว้นจากการประพฤติผิดต่างๆ ซึ่งจะเกิดผลดังนี้สำหรับบาปที่เคยทำมาแล้ว
"บุคคลที่ไม่ได้ อบรม กาย ใจ อบรมปัญญา แม้ทำบาปกรรมเพียงเล็กน้อยก็ตกนรก แต่กับบุคคลผู้ได้อบรม กาย ใจ อบรมปัญญา แม้ทำบาปกรรมเพียงเล็กน้อย ผลกรรมก็จะทำให้เจ็บแสบในชาติปัจจุบันเท่านั้น "
"ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนทำบาปเพียงเล็กน้อย บาปกรรมนั้นนำเขาไปสู่นรก บางคนทำบาปเพียงเล็กน้อยเหมือนกัน แต่บาปกรรมให้ผลเพียงในปัจจุบันชาติเท่านั้น (ทิฏฺฐธมฺมเวทนีย์)(แล้ว)ไม่ปรากฎผลอีกต่อไป"