ตัวผมไม่รู้ว่าเข้าใจถูกหรือเปล่านะ!
ปุจฉา ! (ถามเยอะครับเพราะกำลังสงสัยไม่รู้เข้าใจถูกไหม)
การนั่งวิปัสสนา คือ การเอาใจไประลึกรู้ตามอาการของกายและใจ ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ (นั่งไม่เกรงตัวปล่อยตามธรรมชาติ) ใช่ไหมครับ? แล้วระลึกรู้เท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจริงไม่บิดเบือนใช่ไหมครับ?
(เรื่องนิมิตเคยเห็นแล้วครับ เกิดจากความไม่รู้ว่าเป็น สมถะกรรมฐาน เพราะนั่งแบบไม่รู้ แต่มีคนเคาะเสียงเลยระลึกรู้เท่าทันพอดี สติกลับมาก็เลยหลุดจากนิมิต เลยกลายเป็นวิปัสสนา ซะงั้น สิ่งที่ได้จากตอนนั้คือจิตมันบอกเราว่า "ฟุ้งซ่าน" มารู้ทีหลังจากการสอบถาม อาจารย์พี่เลี้ยงครับ ว่าสมาธิ มี 2 แบบ)
ทีนี้ผมอยากทราบว่า "เวทนาที่เกิดขึ้นตลอดเวลาไม่ยอมดับ" จากการนั่งวิปัสสนา เกิน 1ช.ม. ผมควรทำอย่างไร? ระหว่าง
1)ระลึกรู้เท่าทันตามอาการที่เกิดขึ้นไปเรื่อยๆ (ณ ขณะนี้จับ ลมหายใจ เข้า-ออกไม่เจอเบาจนละเอียดมากจับไม่ได้ เลยจับปวดแทน)
2)ปล่อยวางไม่กำหนดคำบริกรรมใดๆทั้งสิ้น ละทิ้งกะทั่งความปวด ด้วยใจที่ยึดมั่นว่า "ถ้าขามันจะหักก็ให้มันรู้ไป" แต่ใจมันก็ยังไปสนใจอยู่ดี ทำอย่างไงดี?
แล้วก็อีกคำถามครับ อาการที่รู้ตัวว่าหลังเริ่มงอ แล้วกลับมาตรงอีกนี่ใช่สติหรือเปล่าครับ?